“ตากระตุก” ไม่ใช่ลางร้าย แต่เป็นเสียงเตือนจากร่างกาย


“ตากระตุก” ไม่ใช่ลางร้าย แต่เป็นเสียงเตือนจากร่างกาย


ตากระตุก (Eye Twitching) คือ อาการที่เปลือกตามีการขยับเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มักเกิดขึ้นและหายได้เองในเวลาอันสั้น และแม้จะเป็นอาการเพียงเล็กน้อย หากเกิดขึ้นถี่ ๆ ก็ทำให้เกิดความรำคาญได้

แต่อาการตากระตุก ไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนบางอย่างจากร่างกาย ว่าเรากำลังเป็นโรคร้ายบางชนิด เช่น โรคอัมพาตใบหน้า, โรคกล้ามเนื้อบิดเกร็ง เป็นต้น

“ตากระตุก” ไม่ใช่ลางร้าย แต่เป็นเสียงเตือนจากร่างกาย

"ตากระตุก" เกิดจากอะไร?

-เครียดสะสม พักผ่อนไม่เพียงพอ

-ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากเกินไป

-สูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป

-จ้องจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน มองแสงจ้า มากเกินไป

-ลม หรือมลพิษทางอากาศ ตาล้า ตาแห้ง

-ระคายเคืองที่เปลือกตาด้านใน โรคภูมิแพ้

-ขาดวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารบางชนิด

-ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด

สิ่งที่ต้องทำเบื้องต้น เมื่อ "ตากระตุก"

-นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

-ลดการใช้สมาร์ทโฟน หรือ ลดการจ้องมองที่ที่มีแสงจ้า

-ลด/หลีกเลี่ยง ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

-งดการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์

-ทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย

-ประคบร้อน/อุ่นบริเวณดวงตา นวดกล้ามเนื้อรอบดวงตา

-หยอดน้ำตาเทียม เมื่อตาแห้ง หรือระคายเคือง

“ตากระตุก” ไม่ใช่ลางร้าย แต่เป็นเสียงเตือนจากร่างกาย

แต่หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม

-ตากระตุกติดต่อกันนานเป็นเวลา 2 สัปดาห์ขึ้นไป

-มีอาการกระตุกบริเวณอื่นๆ เพิ่มเติมบนใบหน้า

-ตาที่กระตุกมีอาการอ่อนแรงหรือหดเกร็ง / บวม แดง หรือมีสารคัดหลั่งไหลออกมา

-เปลือกตาด้านบนห้อยย้อยลงมา หรือ เปลือกตาปิดสนิททุกครั้งที่เกิดอาการตากระตุก

หากดูแลตัวเองแล้วไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์ รับการรักษาที่เหมาะสมกับอาการ รับประทานยาตามแพทย์สั่ง หรือ ฉีดโบท็อกซ์ ซึ่งเป็นวิธีที่ผ่านการรับรองให้ใช้รักษาอาการกล้ามเนื้อหดเกร็งที่ควบคุมไม่ได้

เครดิตแหล่งข้อมูล :รพ.สมิติเวช


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์