อายุไม่มาก...แต่นกเขาไม่ขัน!

เมื่อพูดถึงปัญหาสมรรถภาพทางเพศหย่อน หลายคนจะเข้าใจว่าต้องอายุ 50 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันกลับพบว่า ปัญหาเรื่อง "นกเขาไม่ขัน อวัยวะเพศไม่แข็ง(ตัว) น้องชายไร้เรี่ยวแรง" ไม่ต้องรอให้ถึงวัยเลข 5 ก็เกิดขึ้นได้ เพราะผู้ชายอายุต่ำกว่า 40 ปี ที่ประสบกับปัญหานกเขาไม่ขันนั้นมีถึงร้อยละ 5-10 เลยทีเดียว ซึ่งปัญหานี้แก้ไขได้...และอาจไม่ต้องพึ่งพายารักษาเสมอไป!

ปัจจัยอะไรบ้างที่เพิ่มความเสี่ยงภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ
ร่างกายไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง ความรู้สึกและอารมณ์ทางเพศจึงลดลง มักมีสาเหตุมากจาก "ฮอร์โมนเพศชายต่ำ" หรือภาวะที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนชายได้ไม่เพียงพอ ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อระดับฮอร์โมนเพศชาย ได้แก่

1.ความผิดปกติของอวัยวะเพศ เช่น อัณฑะไม่ลงถุงหรือค้าง เส้นเลือดดำอัณฑะขอด ภาวะอัณฑะบิดขั้ว หรือเป็นโรคที่เกี่ยวกับการติดเชื้อบริเวณอวัยวะเพศและมีภาวะเรื้อรัง

2.มีประวัติป่วยเป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน ความดันเลือดสูง ไขมันในเลือดสูง รวมถึงโรคตับ โรคไต
ได้รับผลข้างเคียงจากการรักษาโรคมะเร็ง เช่น การฉายรังสี หรือการทำเคมีบำบัด

3.พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น สูบบุหรี่ โดยพบว่าผู้ที่สูบบุหรี่ไม่เกิน 20 มวนต่อวัน มีโอกาสอวัยวะเพศไม่แข็งตัวสูงกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ถึง 24% หรือไม่ชอบออกกำลังกาย โดยพบว่าคนที่ออกกำลังกายไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จำนวนสเปิร์มที่มีความเข้มข้นจะต่ำกว่าคนที่ออกกำลังกายสัปดาห์ละไม่ต่ำว่า 7 ชั่วโมง เฉลี่ยถึง 43%

"หย่อนสมรรถภาพทางเพศ" รักษาได้ด้วยวิธีเหล่านี้
การใช้ยาในการรักษาปัญหานกเขาไม่ขันนั้น ตัวยาในปัจจุบันจะออกฤทธิ์ในการขยายเส้นเลือดเพื่อให้มีเลือดไปเลี้ยงองคชาติมากขึ้น เพื่อให้แข็งตัวได้ดีขึ้น แต่ก็เป็นเหมือนการรักษาที่ปลายเหตุ ผู้ป่วยอาจต้องพึ่งพายาไปตลอด "การให้ฮอร์โมนชายทดแทน" จึงเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาที่ต้นเหตุได้ ร่วมกับการเลี่ยงปัจจัยเพิ่มความเสี่ยง เช่น การเลิกสูบบุหรี่ ลดน้ำหนัก หันมาออกกำลังกายมากขึ้น รวมถึงพักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงความเครียด

"ปลุกความเป็นชาย" ด้วยคุณค่าวิตามินและแร่ธาตุ...ดีกว่าที่คิด!
อย่างที่บอกไปแล้วว่าการปรับระดับฮอร์โมนเพศชายให้สมดุลคือหัวใจสำคัญของการแก้ปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เพราะปัญหานี้ไม่เพียงแค่กระทบต่อเรื่องบนเตียง แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพของคุณผู้ชายด้วย! ซึ่งอาหารเสริมที่อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ที่มีส่วนช่วยในการปรับระดับฮอร์โมนเพศให้สมดุล ไม่เพียงแค่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องเซ็กส์ แต่ยังช่วยดูแลสุขภาพด้านอื่นๆ ให้กับคุณผู้ชายได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพด้านความงาม อย่าง ผิวพรรณ, เส้นผม และสุขภาพด้านร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้ระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆ ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมีส่วนช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง รักษาความหนาแน่นของมวลกระดูก กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง และเพิ่มการสลายไขมัน ลดโอกาสอ้วนลงพุง

เครดิตแหล่งข้อมูล : phyathai.com