กลั้นไอจาม เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต! ภัยเงียบที่หลายคนมองข้าม

ในช่วงที่โรคระบาดอย่างโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ยังคงวนเวียนอยู่รอบตัว เรามักจะกังวลเรื่องการแพร่กระจายเชื้อเมื่อไอหรือจาม จนบางคนเลือกที่จะกลั้นเอาไว้หารู้ไม่ว่าพฤติกรรมนี้อาจเป็นอันตรายร้ายแรงถึงชีวิตได้

มีกรณีของผู้ป่วยหญิงวัย 80 ปีรายหนึ่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลด้วยอาการอ่อนแรง พูดไม่ชัด และมีอาการเบลอ เมื่อซักประวัติพบว่าเธอพยายามกลั้นการจามเพราะกลัวจะแพร่เชื้อโรค ผลการตรวจ CT scan ยืนยันว่ามีลมย้อนขึ้นไปในสมอง ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการเหล่านี้

การกลั้นไอหรือจามอาจนำไปสู่ภาวะที่เรียกว่า Pneumocephalus หรือภาวะลมรั่วในสมอง ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบประสาทโดยตรง ผู้ป่วยอาจมีอาการอ่อนแรง พูดไม่ชัด หรือแม้กระทั่งชักได้ หากอาการรุนแรงมากก็อาจทำให้เส้นเลือดในสมองแตกและเสียชีวิตได้

การรักษาภาวะลมรั่วในสมองขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ ในกรณีที่ไม่รุนแรง ลมที่รั่วออกมาอาจถูกดูดซึมกลับเข้าสู่กระแสเลือดได้เองภายในเวลาประมาณ 2 เดือน แต่หากอาการรุนแรง แพทย์อาจพิจารณาให้เข้ารับการผ่าตัดเพื่อระบายลมออกจากสมอง

คำแนะนำเพื่อสุขภาพที่ดีและปลอดภัย
เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค เรามีคำแนะนำง่ายๆ ดังนี้:

-ห้ามกลั้นการไอหรือจามโดยเด็ดขาด ให้ไอหรือจามออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ

-สวมหน้ากากอนามัย ทุกครั้งที่มีอาการไอหรือจาม เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคไปยังผู้อื่น

-ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ เพื่อสุขอนามัยที่ดี

-ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย

สรุป
การกลั้นไอหรือจามเป็นพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง เพื่อสุขภาพและความปลอดภัยของตัวเราเองและคนรอบข้าง หากมีอาการไอหรือจาม ควรปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคและรักษาสุขภาพที่ดีให้ห่างไกลจากอันตราย