อยากจัดฟันในช่วง Covid-19 จริงๆ แล้ว...ทำได้หรือไม่?
คำถามยอดฮิต! ช่วง Covid-19 จัดฟันได้หรือไม่
กรมการแพทย์ ได้ให้แนวทางปฏิบัติการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันในกรณีเร่งด่วน Emergency Urgency และ Elective case โดยพิจารณาความสามารถในการป้องกันที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้ป่วย โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1.ผู้ป่วยที่ต้องมีการปรับเครื่องมือต่อเนื่องตามดุลยพินิจของทันตแพทย์ผู้ดูแล เช่น อยู่ระหว่างการให้แรงต่อเนื่อง, ผู้ป่วย Corticotomy เป็นต้น ทั้งในงานจัดฟันแบบติดแน่นและแบบถอดได้
2.ผู้ป่วยที่ต้องติดเครื่องมือ ในกรณีที่มีการเตรียมช่องปากไว้แล้ว เช่น ถอนฟันเพื่อการจัดฟันและยังไม่มีการเริ่มให้แรง
3.ผู้ป่วยที่ต้องถอดเครื่องมือ ในกรณีพิมพ์ปากเพื่อส่งทำเครื่องมือคงสภาพฟันแล้ว หรือวางแผนพิมพ์ปากทำเครื่องมือคงสภาพฟันในครั้งถัดไปแต่มีเครื่องมือหลุดระหว่างรอนัดหมาย
คัดกรองความเสี่ยง...ตรวจเช็กก่อนจัดฟัน!การคัดกรองความเสี่ยงในการติดเชื้อของผู้ป่วยก่อนเข้ามารับการจัดฟัน จัดเป็นหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญก่อนการทำหัตถการ โดยการคัดกรองสามารถทำได้โดยการสอบถามก่อนที่จะถึงวันนัดอย่างน้อย 1 วัน เพื่อลดความเสี่ยงจากการเดินทางของผู้ป่วยมายังสถานพยาบาล โดยดูจากทั้งประวัติ และอาการแสดงของผู้ป่วย
ประวัติ
*มีประวัติเดินทางไปยัง หรือมาจากพื้นที่ที่เกิดโรคระบาดหรือไม่
*มีประวัติของคนในครอบครัวป่วยเป็น COVID-19 สัมผัสกับผู้ป่วย COVID-19 หรือสารคัดหลั่งจากระบบทางเดินหายใจของผู้ป่วยโดยไม่ได้ป้องกันอย่างเหมาะสมหรือไม่
*ประกอบอาชีพที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว สถานที่แออัด หรือติดต่อกับคนจำนวนมากหรือไม่
*มีประวัติไปในสถานที่ชุมชน หรือสถานที่ที่มีการรวมกลุ่มคน เช่น ตลาดนัด ห้างสรรพสินค้า สถานพยาบาล ขนส่งสาธารณะ
*เป็นบุคคลากรทางการแพทย์ที่ใกล้ชิด/สัมผัสผู้ป่วย COVID-19 หรือไม่
อาการแสดง1.ไอเจ็บคอน้ำมูกไหล
2.มีไข้ อุณหภูมิสูงตั้งแต่ 37.5 C
3.การสูญเสียการได้กลิ่น และการรับรส
4.ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ
5.หายใจเหนื่อย/หายใจเร็ว
ในกรณีที่สอบถามประวัติและอาการผู้ป่วย แล้วพบว่ามีความเสี่ยง สามารถเลื่อนนัดจัดฟันและดูอาการประมาณ 1 เดือนก่อนได้ ผู้ป่วยสามารถชะลอการรักษา 1-2 เดือนได้โดยไม่กระทบการรักษา
เสี่ยงต่อ COVID-19 หรืออยู่ช่วงเฝ้าระวังแล้วมีอาการฉุกเฉิน ควรทำยังไงดี?การพยากรณ์โรคและการดำเนินโรคจะดีถ้าผู้ป่วยไม่เกิดโรคแทรกซ้อนที่หัวใจ และเส้นเลือดเลี้ยงหัวใจ ก่อนและหลังการรักษา โดยหลังจากไข้ลดลงแล้ว ต้องทานยากันเลือดแข็งตัว (Aspirin) ต่ออีกนานประมาน 60 วัน ของโรค หรือจนกว่าเส้นเลือดเลี้ยงหัวใจโป่งพอง (aneurysm) กลับเป็นปกติ
*กรณีลวดทิ่มแก้ม หากทิ่มเนื้อเยื่ออ่อนหรือทำให้เกิดบาดแผลเรื้องรัง ควรมารับการบำบัดฉุกเฉิน โดยแจ้งความเสี่ยง ต่อ COVID-19 ทางโรงพยาบาลจำเป็นต้องจัดเตรียมมาตราการในการดูแลผู้ป่วยอย่างเหมาะสม หากปลายลวดยื่น ออกมาไม่มาก แนะนำให้ใช้ขี้ผึ้งที่ได้รับจากทันตแพทย์จัดฟัน ปั้นเป็นก้อนเล็กๆและแปะบนลวดที่คมเพื่อบรรเทา อาการได้
*ดูแลอุปกรณ์ให้ดี ไม่เคี้ยวอาหารแข็งเหนียว เพื่อไม่ให้อุปกรณ์จัดฟันหลุด เมื่อมารับการรักษาได้แล้วจะได้รักษาได้ ต่อเนื่อง
*แปรงฟันทั้งเช้า และก่อนนอน รวมทั้งหลังรับประทานอาหารทุกมื้อ ด้วยแปรงจัดฟัน แปรงซอกฟัน และไหมขัดฟันเราควรตระหนักถึงโรคระบาด COVID-19 แต่ไม่ตระหนก เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ในยุค New Normal นี้
หากเราร่วมมือกันดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง และปฏิบัติตามแนวทางในการป้องกันโรค COVID-19 จึงสามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้ได้อย่างแน่นอนที่สุด
เครดิตแหล่งข้อมูล : phyathai.com