คยสังเกตุมั้ย!? “ประจำเดือน” สามารถบอกสุขภาพของคุณผู้หญิงได้!
หน้าแรกTeeNee รวมเรื่องสุขภาพดีๆ สุขภาพผู้หญิง คยสังเกตุมั้ย!? “ประจำเดือน” สามารถบอกสุขภาพของคุณผู้หญิงได้!
แม้ว่าช่วงนั้นของเดือนจะทำให้คุณรู้สึกรำคาญมากกว่าเคย แต่ข้อดีคือมันสามารถบอกถึงสุขภาพโดยรวมของคุณได้
1. หากเลือดประจำเดือนของคุณมีสีแดงสด
สีแดงสดเหมือนกับสีแดงของรถดับเพลิงมักจะหมายความว่าคุณเพิ่งอยู่ในช่วงแรกของรอบเดือน ยิ่งเลือดสดเท่าไหร่ก็ยิ่งสีแดงมากเท่านั้น แม้ว่าสีแดงสดจะไม่บ่งบอกถึงอันตรายใดๆทั้งสิ้น แต่มันก็สามารถเปรอะเปื้อนเสื้อผ้าของคุณได้ ดังนั้นควรเตรียมอุปกรณ์รองรับให้พร้อม
2. หากเลือดประจำเดือนของคุณมีสีน้ำตาล
หลังจากที่รอบเดือนมาราวๆ 2 วัน เลือดประจำเดือนก็อาจเริ่มเปลี่ยนจากสีแดงสดเป็นสีน้ำตาลเข้มมากขึ้น เลือดสีน้ำตาลเป็นเพียงเลือดเก่าที่อยู่ในมดลูกนานกว่าเลือดสด อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เลือดประจำเดือนของคุณเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลคือห่วงคุมกำเนิดโดยเฉพาะชนิดที่มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน เมื่อใส่ห่วงคุมกำเนิดเยื่อบุโพรงมดลูกจะหลุดออกมาทุกเดือนซึ่งหมายความว่าเลือดจะอยู่ในนั้นนานกว่าปกตินั่นเอง
3. หากมีลิ่มเลือด
ลิ่มเลือดหรือก้อนเลือดที่สามารถปรากฏขึ้นได้ในระหว่างมีประจำเดือนโดยปกติแล้วไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเท่าไหร่ตราบเท่าที่ไม่ได้เกิดขึ้นทุกครั้ง แต่ถ้ามีก้อนใหญ่ๆเป็นประจำก็อาจบ่งบอกได้ว่ามีปัญหาบางอย่างซ่อนอยู่ เช่น ไฮโปไทรอยด์ เนื้องอกมดลูก ภาวะโลหิตจางที่แสดงอาการ หรือภาวะเลือดออกมากขณะมีประจำเดือน ขณะเดียวกันก็อาจไม่มีปัญหาอะไรเลยแค่การทำงานของร่างกายผู้หญิง ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์หากมีอาการอื่นๆเพิ่มเติมเพื่อหาวิธีรักษา
4. หากรอบเดือนมาไม่ปกติ
ความเครียดอาจเป็นสาเหตุแรก เมื่อคุณรู้สึกเครียดร่างกายก็จะผลิตคอร์ติซอลออกมามากขึ้นจนอาจส่งผลต่อการตกไข่และประจำเดือนของคุณ เช่น ทำให้รอบเดือนมาช้าหรือขาดไปเลย อีกสาเหตุหนึ่งคือภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS) ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมน (รักษาได้) โดยคุณจะมีระดับฮอร์โมนแอนโดรเจนสูงทำให้ผมยาวเร็วและน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ผู้หญิงที่มีภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบจะไม่ตกไข่ทุกเดือนดังนั้นประจำเดือนจึงไม่มาทุกเดือน นอกจากนี้ถ้าคุณมีปัญหาภายในโพรงมดลูกเช่นการแท้งบุตรก็อาจทำให้ไม่มีเลือดออกมาเนื่องจากการเกิดแผลเป็น และสุดท้ายถ้าคุณเป็นนักกีฬาก็อาจมีประจำเดือนน้อยหรือไม่มีเลยเนื่องจากร่างกายผลิตฮอร์โมนได้ไม่เพียงพอ
5. หากมีอาการปวดประจำเดือนขั้นรุนแรง
อาการปวดประจำเดือนจะเบาหรือรุนแรงนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เมื่อมดลูกหดเกร็งขณะมีประจำเดือนมันจะหลั่งสารโพรสตาแกลนดินออกมา ยิ่งหลั่งออกมามากก็จะยิ่งปวดประจำเดือนมากขึ้น บางครั้งอาการปวดประจำเดือนก็คืออาการปวดประจำเดือน แต่ถ้ารุนแรงมากก็อาจเป็นอาการของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ทางที่ดีคุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุ
6. หากประจำเดือนมาค่อนข้างมาก
หากประจำเดือนของคุณมานานกว่าเจ็ดวันและต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกๆสองชั่วโมงก็อาจเป็นอาการของไฮโปไทรอยด์ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เนื้องอกมดลูก หรือโรคความผิดปกติในการแข็งตัวของเกล็ดเลือดซึ่งทางที่ดีคุณควรปรึกษาแพทย์ การใช้ยาบางประเภทอาจส่งผลต่อการมีประจำเดือนเช่นห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดงไม่มีฮอร์โมน ขณะที่ยาเม็ดคุมกำเนิดกับยาฉีดคุมกำเนิดก็ส่งผลได้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามถ้าคุณรู้สึกกังวลก็ควรปรึกษาแพทย์
ที่มา : issue247
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!