จุดซ่อนเร้นขาวอมชมพู เทรนด์ความงามของสาวยุคนี้
ปัจจุบันบรรดาคลินิคเสริมความงามหลายแห่งเริ่มเปิดคอร์ส "ตกแต่งจุดซ่อนเร้นด้วยเลเซอร์" ให้บริการและตอบสนองความต้องการของหญิงสาวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับคำเชิญชวนที่แสนน่าสนใจ
"ใครจิ๋มดำเชิญทางนี้ค่ะ เลเซอร์จิ๋มขาว เปลี่ยนจิ๋มดำๆ ให้ขาวอมชมพู น่าสัมผัส ช่วยให้บริเวณแคมและขาหนีบขาวขึ้น"
จากเลเซอร์ขนบิกีนี่หรือขนเพชรที่ได้รับความนิยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ปัจจุบันเลเซอร์จุดซ่อนเร้นกำลังเตรียมตัวกลายเป็นเทรนด์ใหม่..
เปลี่ยนความคล้ำให้สว่างสดใส
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและผิวพรรณ โรงพยาบาลเลอลักษณ์ อธิบายว่า เลเซอร์ที่ใช้ปรับสีผิวบริเวณจุดซ่อนเร้นและบริเวณโดยรอบตั้งแต่ใต้ท้องน้อย-หัวหน่าวไปจนกระทั่งขาหนีบ เป็นชนิด Q-Switch nd-YAG Laser โดยทำการยิงเพื่อลบจำนวนเม็ดสี ทำให้บริเวณดังกล่าวคล้ำน้อยลงและสว่างมากขึ้น อย่างไรก็ตามเนื่องจากตำแหน่งจุดซ่อนเร้นมีฮอร์โมนเพศทำให้มีสีคล้ำกว่าตำแหน่งอื่นโดยธรรมชาติและเป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนแปลงให้เหมือนกับสีผิว
ทั้งนี้หากเม็ดสีและความคล้ำเกิดจากสาเหตุอื่นนอกเหนือจากฮอร์โมน เช่น การเสียดสีเนื่องจากมีไขมันบริเวณแคมใหญ่ค่อนข้างมาก ต้องทำการรักษารูปแบบอื่นร่วมด้วย เช่น ทรีทเม้นท์หรือทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นบางลง รวมถึงทำเลเซอร์กำจัดขน เนื่องจากความอับชื้นและเหงื่อส่งผลต่อความคล้ำของสีผิวเช่นกัน
"เป็นเลเซอร์กลุ่มเดียวกับที่ใช้ในคอร์สหน้าใส เพียงแต่มีการปรับค่าพลังงานและความถี่ วิธีการนี้ไม่มีบาดแผลหลังทำ ไม่เกิดข้อแทรกซ้อนที่ไม่พึงประสงค์ เช่น แผลเป็นนูน ไม่เกิดรอยคล้ำง่าย สามารถโดนน้ำได้ตามปกติ แต่อาจหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังทำ เนื่องจากอาจเกิดการละคายเคือง" ผู้เชี่ยวชาญระบุ โดยการทำแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที ส่วนใหญ่ต้องทำไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาและความพึงพอใจ เช่นกันกับระยะเวลาในการคงสภาพที่ขึ้นอยู่กับการดูแลร่างกายของแต่ละคน
"หากคนไข้มีเนื้อตรงบริเวณนั้นมากแล้วเกิดจากการเสียดสี ความคล้ำก็กลับมาได้ ฉะนั้นอาจจะต้องลดน้ำหนัก รวมถึงทำความสะอาด ไม่ให้เกิดการเสียดสีและอับชื้น"
ทั้งนี้ฝ่ายการตลาดของ รพ. เลอลักษณ์ บอกว่า ลูกค้าในคอร์สเลเซอร์จิมิ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นอายุ 20-30 ปี โดยหวังผลในแง่ของความมั่นใจและการทำงานสำหรับอาชีพนางแบบ
เพิ่มความมั่นใจ ชีวิตคู่มีความสุข
การกำจัดขนและปรับสีผิวให้สว่างมากขึ้นในบริเวณจุดซ่อนเร้น ส่งผลต่อความมั่นใจในการทำงานสำหรับอาชีพนางแบบมาก โดยเฉพาะเมื่อต้องสวมใส่ชุดว่ายน้ำ ชุดบิกีนี่ หรือชุดเซ็กซี่อื่นๆ
สนุ๊กเกอร์-อริสา หนองภักดี นางแบบสาววัย 23 ปี บอกว่า สีดั้งเดิมนั้นเป็นปัญหาในการทำงาน โดยเฉพาะขาหนีบ ซึ่งกระทบต่อความมั่นใจและทำให้ไม่กล้ารับถ่ายแบบในชุดบิกีนี่
"ไม่มีใครบอกหรอกว่าตรงนั้นเราไม่สวย แต่รู้ตัวเองดี เราไม่มั่นใจในการทำงาน มองแล้วมันไม่สวย พอเห็นคอร์สและสอบถามความปลอดภัยจากแพทย์ก็เลยกล้าที่จะทำ"
การเปลี่ยนแปลงสีผิวจิมิของสนุ๊กเกอร์ผ่านไปได้ด้วยดี หลังจากพลิกฟื้นมาแล้ว 2 ครั้ง เธอเล่าว่าระหว่างทำไม่รู้สึกเจ็บแม้แต่นิดเดียว พร้อมกับยอมรับว่า ทุกวันนี้มีความสุขมากในชีวิตทั้งในแง่อาชีพการงานและความสัมพันธ์กับคนรัก
"ผิวขาวและเนียนขึ้น มั่นใจกว่าเดิมมากๆ เลยค่ะ เวลาไปถ่ายแบบ โพสต์ท่า รวมถึงเรื่องชีวิตคู่ด้วย ความมั่นใจเป็นเรื่องสำคัญ" เธอบอกด้วยแววตาสดใสว่าในวงการนางแบบ ปัจจุบันหลายคนเริ่มเลเซอร์เปลี่ยนสีผิวจิมิกัน เนื่องจากเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อการทำงาน
แม้วิวัฒนาการทางการแพทย์จะทำให้จิมิขาวขึ้นได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าที่ดำๆ คล้ำๆ นั้นเป็นปัญหาหรือผิดธรรมชาติแต่อย่างใด
พญ.ชัญวลี ศรีสุโข สูตินรีแพทย์ รพ.พิจิตร บอกว่า ค่านิยมของสังคมไทยเรื่องสีผิว โดยมีดารานางแบบเป็นตัวอย่าง ทำให้คนผิวคล้ำบางรายไม่สามารถก้าวข้ามค่านิยมเรื่องสีผิว เกิดความด้อยค่าขาดความมั่นใจ เช่นเดียวกับสีของอวัยวะเพศ การมีหนังโป๊ซึ่งคัดเลือกคนที่มีอวัยวะเพศสีชมพู อาจสร้างค่านิยมให้รู้สึกว่าการมีตรงนั้นสีชมพูเป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งจริงๆ แล้วสีของอวัยวะเพศเป็นสีส่วนตัว ส่วนใหญ่จะเป็นสีเดียวกับริมฝีปากและหัวนมของเจ้าของ แต่มีบ้างที่มีสีคล้ำกว่าริมฝีปากและหัวนม โดยเฉพาะในคนที่น้ำหนักตัวมาก ชอบนุ่งคับ หรือมีความอับชื้น
ความรู้สึกที่ว่าหย่อนยานและเหี่ยวส่วนใหญ่เป็นเรื่องของแคมเล็ก มีค่านิยมที่ไม่เป็นความจริงว่ายิ่งเล็กยิ่งดูดี เป็นสาวพรหมจรรย์ ในคนที่แคมเล็กยื่นยาวใหญ่หรือสีคล้ำเป็นคนที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์อย่างสำส่อน คนที่แคมเล็กยื่นยาวออกมาจึงมีความวิตกกังวล ทั้งที่ความจริงคือ ขนาดของแคมเล็กนั้นแตกต่างกัน ไม่เกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์สำส่อน
"การเปลี่ยนแปลงสี บางคนหวังผลเรื่องความงาม ความเซ็กซี่ บางส่วนหวังผลเรื่องเพศ ปัจจุบันเรื่องเพศก้าวหน้าไปมาก อดีตบางคนบอกว่าไม่ต้องทำหรอก ปิดไฟก็เหมือนๆ กัน แต่บางคนมีการทำออรัลเซ็กส์ ทำภาพลักษณ์ส่วนนั้นสำคัญนับเป็นแรงจูงใจเรื่องเพศ"
พญ.ชัญวลี สรุปว่า เรื่องอวัยวะเพศหย่อนยาน ดูเหี่ยว สีคล้ำ แคมใหญ่บาน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องคิดไปเอง ไม่ต้องรักษา หากวิตกกังวลมากสามารถปรึกษาสูติแพทย์เพื่อตรวจดูว่าอวัยวะนั้นๆ ว่าเป็นอย่างที่คิดหรือไม่ ซึ่งหากผิดปกติจริงๆ ในบางคน ศัลยกรรมตกแต่งอาจจะช่วยได้
ทั้งนี้การเลือกรับบริการจากคลินิกเสริมความงามเป็นเรื่องสำคัญมาก ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีอุปกรณ์เวชภัณฑ์ที่ได้รับการทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
โดย...วรรณโชค ไชยสะอาด....
www.posttoday.com