(1) ให้ฮอร์โมนโปรเจสเทอโรนทดแทนในรูปแบบ Natural hormone ในกรณิที่ขาดฮอร์โมนโปรเจสเทอโรนหรือมีเหลืออยู่น้อย โดยการรักษานี้ต้องเป็นคุณหมอที่เชี่ยวชาญให้การดูแลรักษานะครับ การใช้ฮอร์โมนทดแทนจะใช้ในรายที่จำเป็นต้องใช้เท่านั้น เพราะเป็นการรักษาที่ต้องติดตามเฝ้าระวังอาการต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นหลังการรักษา
(2) เน้นการรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ (Low fat diets) และ รับประทานอาหารที่มีเส้นใยอาหารมากขึ้น (High fiber diets, plant-based diets)
(3) รับประทานอาหารประเภทเต้าหู้ ถั่วเหลือง (Soy) อย่างพอเหมาะ ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป (สัปดาห์ละ 2 - 3 ครั้ง) เนื่องจากให้สาร Phytoestrogen ซึ่งมาจากธรรมชาติ สามารถไปยังยั้งฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีอยู่ในร่างกายซึ่งกำลังออกฤทธิ์มากได้ โดยการไปแย่งจับบริเวตัวรับ (Receptors) ที่เซลล์ต่างๆ ในอวัยวะเป้าหมาย นอกจากนี้ แนะนำให้รับประทานผักในกลุ่มกะหล่ำปลี (Cruciferous vegetable) เช่น บล็อคโคลี่ กะหล่ำปลี กะหล่ำดาวกะหล่ำปม ดอกกะหล่ำ คะน้า เทอร์นิพ เป็นต้น เนื่องจากมีสารที่ช่วยในกระบวนการเมตาบอลิสมของฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย
(4) จำกัดการดื่มกาแฟไม่ให้มากจนเกินไป ขอเเค่วันละแก้วก็พอนะครับ
(5) ใส่ใจให้กระบวนการดีท็อกสารพิษของตับ (Liver Detoxification) ให้มากขึ้น (ทั้ง Phase 1 and Phase 2) โดยการลดสารพิษที่จะเข้าสู่ร่างกาย ในขณะเดียวกันก็เสริมสารอาหารที่ส่งเสริมการดีท็อกของตับให้มีประสิทธิภาพ ดังที่หมอหล่อเขียนไว้ในตอน #ตับฟิตชีวิตยืน ครับ
(6) โฟกัสไปที่กระบวนการเมตาบอลิสมของฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย (Estrogen Metabolism) เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายจะถูกเปลี่ยนแปลงภายในเซลล์ ซึ่งมีโอกาสเกิดได้ทั้ง
- สารอนุพันธุ์ที่ดี (2-OH Estradiol & 2-OH Estrone) และ
- สารอนุพันธุ์ที่ร้าย (16 alpha -OH Estrone & 4-OH Estrone) แน่นอนว่าเราต้องการตัวดี และ ไม่ต้องการให้เกิดตัวร้ายขึ้นมาในร่างกาย เพราะเป็นสารก่อมะเร็งได้ ดังนั้น การส่งเสริมกระบวนการเมตาบอลิสมของฮอร์โมนเอสโตรเจน เพื่อให้เกิด 2-OH Estradiol & 2-OH Estrone นั้น ควรทำหลายอย่างๆ ดังนี้ คือ
- เสริมสารต้านอนุมูลอิสระที่เสมาะสม
- เสริมอาหาร (โดยเฉพาะอาหารที่มีโปรตีนสูง คุณภาพดี) และสารอาหารที่เพิ่มการผลิตสารกลูต้าไทโอนในร่างกายให้มากขึ้น เช่น Sylimarin (สกัดมาจากสมุนไพร Milk thistle)
- เสริม Fish oil Flax seed extract
- เสริมสารสะกัดจากบล็อคคอลี่ เช่น Indole-3-Carbinol (I3C) หรือ Diindoly methane (DIM) หรือ Sulforaphane glucosinolate เป็นต้น
" โดยที่ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ก่อนใช้ต้องปรึกษาเเพทย์ก่อนใช้เสมอนะครับ "
(7) ควบคุมน้ำหนักตัวให้พอดี โฟกัสที่ไขมันนะครับ ไม่ให้มากเกินไป หรือ ไม่ให้อ้วนนั้นเองครับ Fat ยิ่งมาก Estrogen ยิ่งผลิตออกมามาก ครับ (ฮอร์โมนเอสโตรเจน บางส่วนผลิตจากเซลล์ไขมัน)
(8) ออกกำลังกายในะดับปานกลาง (Moderate Exercise) เป็นวิธีง่ายๆ แทบไม่ต้องลงทุนเงิน เเต่ต้องลงทุนเเรง และลงทุนใจ เป็นอะไรที่มีประโยชน์ครอบจักรวาลครับ
(9) ตัวช่วย วิตามิน อาหารเสริม เพื่อช่วยลดอาการของ Estrogen Dominant ไม่ใช่วิธีหลัก จึงนำมาไว้ข้อสุดท้ายครับ Supplements ดังกล่าว ได้แก่
- วิตามิน B2 6 12, C, D, E,Folic acid เป็นต้น
- เเร่ธาตุ Magnesium Chromium เป็นต้น
- สารต้านอนุมูลอิสระบางชนิด เช่น เควอซิทิน เป็นต้น
- สารสะกัดจากเมล็ดแฟล็ก น้ำมันปลา
- กรดอะมิโนบางตัว - Glutamine Taurine Methionine SAMe
- และสารสะกัดจากสมุนไพรบางชนิด เป็นต้น
อย่าลืมนะครับว่า หากเราป้องกันไว้ ย่อมดีกว่า การรักษาเมื่อภายหลัง แน่นอน จะว่าไปภาวะนี้ ก็คือ #ผลิตผลของการใช้ชีวิตแบบประมาท นั่นเองครับ ไม่ว่าจะเป็นการกินอยู่ การไม่ออกกำลังกาย ความอ้วน การขาดความรู้ในการดูแลสุขภาพของตัวเอง เอาล่ะ ได้ฟังแบบนี้เเล้ว หมอหล่อคอเล่าหวังว่า เพื่อนๆ ทุกคน โดยเฉพาะสาวๆ คงจะได้แนวทางในการดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดีขึ้นมากกว่าเดิมกันเเล้วนะครับ
#เป็นกำลังใจให้ทุกคนทุกท่านครับ
ที่มาจาก : หมอหล่อคอเล่า