ไม่อยากหุ่นพังต้องระวัง! 5 นิสัยที่ทำให้อ้วน แบบไม่รู้ตัว
น้ำทำหน้าที่ช่วยย่อย ลำเลียง และขับของเสียในร่างกาย เมื่อร่างกายขาดน้ำ ไตก็จะทำงานหนัก ส่งผลให้ตับต้องมาช่วยแบกรับหน้าที่ของไต จึงทำให้ทำหน้าที่หลักอย่างการเร่งการเผาผลาญไขมันที่สะสมในร่างกายได้น้อยลง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้อ้วนโดยไม่รู้ตัว
ถ้าอยากให้ร่างกายทำงานเป็นปกติ ขับถ่ายคล่อง จึงควรดื่มน้ำให้ได้วันละประมาณ 1.5-2 ลิตร และถ้าออกกำลังกายหรือเสียเหงื่อมาก ก็ควรดื่มน้ำให้เยอะขึ้น เพื่อเข้าไปทดแทนน้ำในร่างกายที่สูญเสียไปค่ะ
ทานเร็ว
ยิ่งทานเร็วยิ่งทำให้อิ่มช้า เพราะกระเพาะจะไม่รับรู้ถึงความอิ่ม ร่างกายจึงคิดว่าสามารถรับอาหารได้อีก ส่งผลให้เราทานอาหารมากกว่าปริมาณที่ร่างกายต้องการไปโดยไม่รู้ตัว
ลองปรับมาทานช้าๆ เคี้ยวช้าๆ นอกจากจะทำให้เราได้รับรู้ถึงรสชาติของอาหารมากขึ้นแล้ว ยังทำให้อิ่มเร็วขึ้น และได้รับปริมาณอาหารที่เหมาะสมกับร่างกายอีกด้วยนะคะ
ยิ่งตื่นนาน ร่างกายก็ยิ่งใช้พลังงานเยอะ การนอนดึกจึงทำให้หิวและหาอะไรทานมากขึ้น แต่ผลกระทบจากการนอนดึกไม่ใช่แค่การทานเยอะขึ้นจนน้ำหนักพุ่งพรวด แต่ส่งผลต่อร่างกายหลายอย่างนะคะ เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียแล้ว ยังทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง การหลังฮอร์โมนแปรปรวน และยังทำให้ประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมันลดลงอีกด้วย
ถ้าอยากจะนอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรเข้านอนและตื่นให้ตรงเวลาทุกวัน นอกจากนี้ก็ควรงดอาหารก่อนเข้านอนประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้ย่อยอาหารให้หมดเสียก่อน ทำให้นอนหลับสนิท และยังไม่เสี่ยงต่อการเป็นโรคกรดไหลย้อนด้วยค่ะ
ออกกำลังกายเท่าไร ใส่กลับไปมากกว่าเดิม
อย่าปฏิเสธว่าไม่เคยทำพฤติกรรมนี้เลยค่ะ หลายคนชะล่าใจ คิดว่าทานอาหารเท่าไรก็ได้ เพราะสามารถออกกำลังกายเพื่อเอาพลังงานออกได้ ทำให้เรารับพลังงานและปริมาณจากอาหารมากเกินไป ส่งผลให้การลดน้ำหนักพังมาหลายต่อหลายรายแล้ว
ถ้าเป็นคนที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารสักหน่อย ควบคุมพลังงานที่ได้รับในแต่ละมื้อให้เหมาะสม หากอยากทานเยอะๆ จริงๆ ควรกำหนดวัน cheat day เพียงสัปดาห์ละ 1-2 วัน เพื่อให้มีวินัยในการทานอาหารค่ะ
อย่าเพิ่งตกใจว่า การหายใจจะต้องมีวิธีที่ถูกต้องด้วยเหรอ เพราะไลฟ์สไตล์อันเร่งรีบทำให้เราหายใจสั้นๆ หรือกลั้นหายใจบ่อยโดยที่ไม่รู้ตัว ซึ่งนี่แหละค่ะที่ทำให้ร่างกายทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
การหายใจที่ถูกต้องคือการหายใจยาวๆ เพื่อสูดเอาออกซิเจนเข้าปอดได้มากที่สุด การเติมออกซิเจนในเลือดจะทำให้เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อได้เพียงพอ และทำให้กล้ามเนื้อเผาผลาญพลังงานได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ออกซิเจนยังช่วยให้กระบวนการย่อยอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้น และทำให้สมองปลอดโปร่งด้วยค่ะ หากยังหายใจยาวๆ ไม่เป็น ลองฝึกโยคะดู เพราะเป็นการออกกำลังกายที่สัมพันธ์กับการหายใจโดยตรงเลยค่ะ