Vitamin E เพื่อนสนิทโปรดชิดใกล้

 เย็นวันนี้ขอพาทุกคนมารู้จักกับ วิตามินอี กันนะครับ จากคราวที่เเล้วเราได้รู้จักกับวิตามินซีและเอไปแล้ว หวังว่าคงจะเป็นข้อมูลดีๆ ที่จะสามารถนำไปใช้
ประโยชน์กับตัวเราได้บ้างนะครับ

วิตามินอีก็เป็นวิตามินอีกชนิดหนึ่งในกลุ่มวิตามินที่ละลายในน้ำมันดังนั้นบทบาทของเค้าจึงเกี่ยวกับการทำงาน ในตำแหน่งของเซลล์ที่มีไขมันเป็นองค์ประกอบซ่ะส่วนใหญ่ เช่น บริเวณเยื่อหุ้มเซลล์ต่างๆในร่างกายครับ

วิตามินอี เป็นชื่อเรียกรวมๆ ของ สารในกลุ่ม Tocopherols (ซึ่งมี 4 ชนิด คือ แอลฟ่า เบต้า แกมม่า และ เดลต้า) และ Tocotrienols (มี 4 ชนิดเหมือน
กันครับ)
แต่ ตัวที่มีบทบาทและตรวจพบในร่างกายมาก
ที่สุดก็คือ #แอลฟ่าโทโคฟีรอล (Alpha-tocopherol)

ปกติเราได้รับวิตามินอีจากไหนกันบ้างนะ ? #เเหล่งที่พบวิตามินอีในอาหาร ได้แก่ น้ำมันพืชต่างๆ เช่น olive oil sunflower oil safflower oil corn oil soy bean oil ถั่วต่างๆ แอลม่อน ธัญพืชต่างๆ รวมถึงผักใบเขียว โดยส่วนใหญ่เเล้วจะมีวิตามินอีชนิด แอลฟ่าโทโคฟีรอลเป็นหลัก แต่บางชนิดก็มีสัดส่วน
ของแกมม่าโทโคฟีรอลสูงกว่า นั่นเอง

#ประโยชน์หลักๆ ของเจ้าวิตามินอีที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน ได้แก่
 - เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ ทำงานร่วมกันกับวิตามินซี กลูต้าไทโอน และ โคเอนไซม์คิว 10 ทำให้เรามีอนุมูลอิสระในร่างกาย
น้อยลง ลดความเสี่ยงในการเกิดโรค
เกิดความเสื่อมในร่างกาย ผิวพรรณชุ่มชื่น สดใส

 - ป้องกันการเกิดต้อกระจก (cataracts)
 - ช่วยสร้างความเเข็งเเรงให้กับระบบภูมิคุ้มกัน
 - ป้องกันการเกิดโรคในกลุ่มหัวใจและหลอดเลือด โดยทำหน้าที่ป้องกันการเกิด LDL oxidation ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะ atherosclerosis อันเป็นต้นเหตุของโรคหัวใจนั้นเอง
 - มีรายงานวิจัยว่าลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
ต่าง ๆ เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นต้น

เราควรกินวิตามินอีเสริมไหม ? คำตอบก็คือ ต้องพิจารณาเป็นรายบุคคลไปครับ เพราะตามที่ Thai RDI กำหนดไว้อยู่ที่ปริมาณ 15 IU/วันเท่านั้น ซึ่งน้อยมากถ้าเทียบกับขนาดที่เราเห็นกันบ่อยๆใน อาหารเสริมที่อยู่ประมาณ 200 ถึง 400 IU ต่อแคปซูล แต่จากข้อมูลเรื่องความเป็นพิษของวิตามินอี พบว่า ปริมาณที่กินติดต่อกันนานที่อาจทำให้เกิดพิษต่อร่าง กายได้คือ 1,500 IU/วัน ดังนั้นหากเราเลือกที่จะกิน
วิตามินอีเสริมควรดูว่าเราได้วิตามินอีจากอาหารเพียง พอไหมถ้าคิดว่าไม่เพียงพอก็ควรเลือกวิตามินอีชนิดที่ เป็น Natural form alpha-tocopherol หรือ RRR-alpha-tocopherol หรือ d-alpha-tocopherol มากกว่าที่เป็น Synthetic alpha-tocopherol (หรือ all-rac หรือ dl-alpha-tocopherol) โดยที่ปริมาณที่เเนะนำไม่ควรเกินกว่า 800 IU/วัน ครับ และที่สำคัญจะต้องไม่มีข้อห้ามใช้ และ ข้อห้ามในการใช้ร่วมกับยาอื่นๆ ที่เรากำลังกินด้วยครับ

#อย่างไรก็ตามอาหารหลักจากธรรมชาติย่อมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ควรเลือกทานเสริมควรเลือกให้เหมาะกับ
ตัวเราเองและหาข้อมูลที่ถูกต้องก่อนเสมอก่อนที่จะรับประทานอาหารเสริมต่างๆ นะครับ






ที่มา : หมอหล่อคอเล่า


Vitamin E เพื่อนสนิทโปรดชิดใกล้

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์