แพคเกจวัคซีนเด็กที่ควรฉีดให้ครบ เพื่อสุขภาพดีของเด็กๆ


แพคเกจวัคซีนเด็กที่ควรฉีดให้ครบ เพื่อสุขภาพดีของเด็กๆ


ในโลกที่เต็มไปด้วยเชื้อโรคและการแพร่ระบาดการปกป้องสุขภาพของลูกน้อยคือสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ซึ่งหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการสร้างเกราะป้องกันให้แก่เด็กๆจากโรคร้ายแรง คือ การฉีดวัคซีนให้ครบถ้วนตามตารางเพื่อให้พวกเขาเติบโตอย่างแข็งแรง ปลอดภัย และมีพัฒนาการที่สมวัยแต่แพคเกจวัคซีนเด็กในแต่ละช่วงอายุมีอะไรบ้างที่ลูกน้อยควรได้รับบทความนี้มีสาระน่ารู้ฝากกัน



แพคเกจวัคซีนเด็กที่ควรฉีดให้ครบ เพื่อสุขภาพดีของเด็กๆ


วัคซีน: เกราะป้องกันภัยร้ายที่มองไม่เห็น

วัคซีนเปรียบเสมือนครูฝึกที่มาสอนให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายรู้จักและต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ซึ่งปัจจุบันแพคเกจวัคซีนเด็กที่ควรได้รับมีอยู่หลากหลายตัวตามแต่ละช่วงอายุ ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อการเจริญเติบโตของพวกเขา

ความสำคัญของวัคซีนสำหรับเด็ก: มากกว่าแค่การป้องกันโรคส่วนบุคคล
การได้รับแพคเกจวัคซีนเด็กที่ครบถ้วนตามตารางมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพของเด็กๆ ด้วยเหตุผลหลายประการ ดังนี้

1. ป้องกันโรคร้ายแรงและภาวะแทรกซ้อน:วัคซีนช่วยป้องกันโรคติดเชื้อร้ายแรงต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดความพิการ ทุพพลภาพ หรือแม้กระทั่งเสียชีวิตในเด็ก เช่น โรคโปลิโอที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและเป็นอัมพาต โรคหัดที่อาจนำไปสู่ภาวะปอดบวมหรือสมองอักเสบ โรคคางทูมที่อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงในผู้ชาย และโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบที่อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อสมองอย่างถาวร

2. ลดความรุนแรงของโรค:แม้ว่าเด็กที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนอาจยังคงติดเชื้อบางชนิดได้ แต่โดยทั่วไปแล้วอาการป่วยจะมีความรุนแรงน้อยกว่าเด็กที่ไม่ได้รับวัคซีน ช่วยลดระยะเวลาการเจ็บป่วย ลดความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน

3. สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity):การฉีดวัคซีนไม่ใช่แค่การป้องกันตัวลูกน้อยเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งหมายถึงการที่ประชากรส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีน ทำให้เชื้อโรคไม่สามารถแพร่กระจายได้อย่างง่ายดาย เป็นการปกป้องบุคคลที่ยังไม่สามารถรับวัคซีนได้ เช่น เด็กทารกแรกเกิด ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือผู้ที่แพ้ยาบางชนิด

4. ลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษา:การป้องกันโรคด้วยวัคซีนมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าการรักษาโรคและการจัดการกับภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว ทั้งต่อครอบครัวและต่อระบบสาธารณสุข

5. ส่งเสริมพัฒนาการที่สมวัย:เมื่อลูกน้อยมีสุขภาพที่แข็งแรง พวกเขาก็จะสามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ พร้อมเรียนรู้ และมีพัฒนาการทางร่างกายและสติปัญญาได้อย่างเต็มที่ การเจ็บป่วยบ่อยครั้งอาจส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้และการเข้าสังคมของเด็ก

แพคเกจวัคซีนเด็กตามช่วงอายุที่ควรฉีดให้ครบถ้วน
กระทรวงสาธารณสุขและกุมารแพทย์ได้กำหนดตารางการให้วัคซีนสำหรับเด็กในแต่ละช่วงอายุอย่างชัดเจน เพื่อให้เด็กได้รับการป้องกันโรคต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม โดยทั่วไปแล้ว แพคเกจวัคซีนเด็กสามารถแบ่งตามช่วงอายุที่สำคัญดังนี้

1. แรกเกิด - 1 เดือน:

o วัคซีนป้องกันวัณโรค (BCG)
o วัคซีนป้องกันตับอักเสบบี เข็มแรก (Hepatitis B dose 1)

2. 2 เดือน:
o วัคซีนรวมป้องกันคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน โปลิโอ ฮิบ และตับอักเสบบี เข็มแรก (DTaP-IPV-Hib-HBV dose 1)

o วัคซีนป้องกันโรคท้องร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้า เข็มแรก (Rotavirus dose 1)
o วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอคคัส เข็มแรก (Pneumococcal Conjugate Vaccine - PCV dose 1)

3. 4 เดือน:
o วัคซีนรวมป้องกันคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน โปลิโอ ฮิบ และตับอักเสบบี เข็มที่สอง (DTaP-IPV-Hib-HBV dose 2)

o วัคซีนป้องกันโรคท้องร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้า เข็มที่สอง (Rotavirus dose 2)
o วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอคคัส เข็มที่สอง (PCV dose 2)

4. 6 เดือน:
o วัคซีนรวมป้องกันคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน โปลิโอ ฮิบ และตับอักเสบบี เข็มที่สาม (DTaP-IPV-Hib-HBV dose 3)

o วัคซีนป้องกันโรคท้องร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้า เข็มที่สาม (Rotavirus dose 3 - สำหรับบางชนิดของวัคซีน)

o วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบจากเชื้อนิวโมคอคคัส เข็มที่สาม (PCV dose 3)
o วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เข็มแรก (Influenza dose 1)

5. 7-12 เดือน:
o วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เข็มที่สอง (Influenza dose 2) (ห่างจากเข็มแรก 1 เดือน)

6. 9 เดือน:
o วัคซีนป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน เข็มแรก (MMR dose 1)

7. 12 เดือน:
o วัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอี เข็มแรก (Japanese Encephalitis - JE dose 1)

8. 18 เดือน:

o วัคซีนรวมป้องกันคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน โปลิโอ และฮิบ เข็มกระตุ้น (DTaP-IPV-Hib booster)
o วัคซีนป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน เข็มที่สอง (MMR dose 2)
o วัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส เข็มแรก (Varicella dose 1)
o วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบเอ เข็มแรก (Hepatitis A dose 1)

9. 2 ปี:
o วัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบเจอี เข็มที่สอง (JE dose 2)
o วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบเอ เข็มที่สอง (Hepatitis A dose 2) (ห่างจากเข็มแรก 6-12 เดือน)

10. 4-6 ปี:
o วัคซีนรวมป้องกันคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน และโปลิโอ เข็มกระตุ้น (DTaP-IPV booster)
o วัคซีนป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน เข็มกระตุ้น (MMR booster)
o วัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส เข็มที่สอง (Varicella dose 2)

11. 11-12 ปี:
o วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (Human Papillomavirus - HPV) (สำหรับเด็กหญิงและเด็กชาย)

หมายเหตุ:ตารางการให้วัคซีนอาจมีการปรับเปลี่ยนตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขและสถานการณ์การระบาดของโรค คุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์เพื่อรับข้อมูลล่าสุดและวางแผนการฉีดวัคซีนให้ลูกน้อยอย่างเหมาะสม

การได้รับแพคเกจวัคซีนเด็กที่ครบถ้วนตามตารางเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว ทั้งยังช่วยปกป้องลูกน้อยจากโรคร้ายแรง ลดความรุนแรงของการเจ็บป่วย สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ และส่งเสริมพัฒนาการที่สมวัย การละเลยการฉีดวัคซีนอาจนำมาซึ่งผลกระทบที่น่ากังวลและอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตของลูกน้อย เพื่อให้พวกเขามีสุขภาพที่แข็งแรงและเติบโตอย่างมีความสุข


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์