หมอธีระวัฒน์ แจงหลังติดโควิด อัลไซเมอร์ปะทุ แต่จัดการได้
พร้อมบอกว่า สมองเสื่อม เป็นเรื่องที่น่ากลัวและมีเวลาเพาะบ่มตัวได้ถึง 15 ถึง 17 ปี ก่อนที่จะแสดงอาการออกมา ตัวเร่งที่ทำให้เกิด แม้ว่าจะไม่มีรหัสพันธุกรรมที่ส่งเสริมให้เกิดโรคก็ตาม คือการอักเสบไม่ว่าจะเกิดจากภายนอก ตั้งแต่สารเคมีที่ปะปนในพืช ผัก ผลไม้ ในอาหาร และมลพิษ พีเอ็ม 2.5 และสถานการณ์อาจจะเลวร้ายขึ้นไปอีกจากการที่ติดเชื้อโควิด
อีกกลุ่มอาการ เป็นในรูปลักษณะมีการอักเสบ ปะทุง่าย ทำให้ มีผื่น ผิวหนัง จนกระทั่งถึง คัน มีผมร่วง และระบบทางเดินอาหารแปรปรวน อาการคล้าย กรดไหลย้อน ท้องผูกสลับท้องเสีย
ลักษณะอาการเหล่านี้ยังปรากฏขึ้นในคนที่ฉีดวัคซีนโดยเฉพาะ mRNA และแพ้ จะมีอาการแบบลองโควิดได้ทุกประการ
หมอธีระวัฒน์ ยกตัวอย่างหลังติดโควิดเอง
13 วัน หลังจากติดโควิด จากการตรวจเลือดพบว่ามีหลักฐานของ อัลไซเมอร์ปรากฎ โดยมีอัตราส่วนของโปรตีนเอมีลอยด์ 42:40 ลดลง แต่ยังไม่พบว่า ทาวโปรตีน (p-Tau181) ขึ้น ซึ่งมีความไวและความจำเพาะสูงต่อ อัลไซเมอร์
100 วันหลังจากติดโควิดโดยที่อาการของหมอเองนั้นทางสมองสดใสเหมือนเดิมทำงานได้ สอน ทำวิจัยเขียนรายงานวิจัยลงวารสารได้
แต่เมื่อตรวจเลือดทั้งๆที่ไม่ได้มีอาการผิดปกติ เลือดทั้งสองตัว อมิลอยด์ และ ทาวโปรตีนขึ้นในระดับสูง (สูงกว่าค่าปกติของคนอายุ 75 ปี) และ นั่นเอง ต้องทำการต่อสู้เพื่อป้องกันไม่ให้สมองเสื่อมปะทุ จนกระทั่งออกอาการ
ห้าเดือนเต็มหลังจากที่เจาะเลือดและรู้ว่าสมองเสื่อมปะทุ หมอประเมินตัวเองใหม่ (19/2/2566) และพบว่าโปรตีนอัลไซเมอร์ทั้งหมดหายไป
ที่ต้องยกตัวอย่างของตัวหมอเองมาเผยแพร่นั้นเนื่องจากสามารถจาระนัย ความผิดปกติของตนเองได้อย่างแน่นอน ชัดเจน และอย่างน้อยแสดงให้เห็นว่าข้อมูลทางการแพทย์ ทางวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ที่ชี้แล้วว่า การเข้าใกล้มังสวิรัติ การออกกำลังกาย ตากแดดเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการลดการอักเสบ
การอักเสบที่เกิดขึ้นในร่างกายนั้น จุดชนวนเชื้อเพลิง กองที่หนึ่ง (hit 1) และแทรกซึมเข้าไปในเนื้อสมองไปจุดชนวนเชื้อเพลิง กองไฟที่สอง (hit 2) ในสมอง และกระตุ้นให้มีการสร้างโปรตีนผิดบิดเกลียวสมองเสื่อมเกิดขึ้นต่อเนื่อง
การตรวจเลือดประเมินสมองเสื่อมได้ตั้งแต่ไม่มีอาการเหล่านี้ พัฒนาโดยศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์จุฬา ของเรา โดยได้ริเริ่ม ทำมาหกปีแล้ว และในระยะเวลาสองปีที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนจากกระทรวง อว สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส) และการติดตามผลกระทบของโควิดและของโควิดวัคซีนนั้น ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวง อว เช่นกัน ผ่านทาง สำนักงานวิจัยแห่งชาติ
ไม่ว่าจะเป็นประเทศใด หรือจะเกิดกับคนร่ำรวยเพียงใดมีทรัพย์สมบัติล้นฟ้า แต่ถ้าเกิดเรื่องเหล่านี้แล้ว จะพึ่งแต่ยาอย่างเดียว แน่นอนคงเป็นไปไม่ได้ครับ
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลงทุนและทำด้วยความสม่ำเสมอจะทำให้เราไม่เป็นภาระกับครอบครัวสังคมและประเทศไทย การตรวจจากเลือดจะแม่นยำที่สุด แต่ค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้นมีการตรวจคัดกรองจากน้ำลายด้วย ถ้าผิดปกติตรวจเลือดต่อ ที่ศูนย์แห่งเดียวครับ ตามรายละเอียด