เผยวิธีสวมหน้ากาก 2 ชั้นให้ถูก ถ้าใส่ผิดส่งผลเสียอย่างมาก!
ในกรณีการสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโควิด-19 ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ต้องสวมให้ถูกต้องและถูกวิธี โดยให้ปิดจมูก ปาก คาง หากสวมหน้ากากอนามัยไม่แนะนำให้สวมซ้อนกัน 2 ชั้น เนื่องจากจะทำให้ไม่กระชับกับใบหน้า และเกิดช่องว่าง ทำให้ต้องใช้มือขยับหน้ากาก และเสี่ยงสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโรคลดลง
วิธีการตรวจสอบความกระชับกับใบหน้าด้วยการตรวจช่องว่าง
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า หากต้องการเพิ่มความมั่นใจของชั้นกรองหน้ากากให้มีประสิทธิภาพสูง เมื่อต้องอยู่ในสถานที่แออัด หรือพื้นที่ที่ระบายอากาศไม่ดีเป็นระยะเวลานาน เช่น ในรถตู้โดยสาร หรือเมื่อต้องสัมผัสใกล้ชิด กับผู้มีความเสี่ยงสูง แนะนำให้สวมหน้ากากผ้าทับหน้ากากอนามัยได้ แต่ขอเน้นย้ำต้องสวมให้ถูกวิธีและถูกประเภทของชนิดหน้ากาก
คือ สวมหน้ากากอนามัยก่อนแล้วทับด้วยหน้ากากผ้า ซึ่งจะเพิ่มความกระชับและความสามารถ ในการกรองมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งตรวจสอบว่าหายใจได้สะดวกหรือไม่ นอกจากนี้ การสวมหน้ากากแบบผิดประเภท เช่น
สวมหน้ากากอนามัยซ้อนกัน 2 ชั้น สวมหน้ากาก N95 ก่อนแล้วทับด้วยหน้ากากอื่น หรือสวมหน้ากากผ้าก่อนแล้วทับด้วยหน้ากากอนามัย นอกจากจะไม่ช่วยเรื่องประสิทธิภาพการป้องกันแล้ว ยังส่งผลให้ผู้สวมอึดอัด หายใจไม่ออก และ อาจเป็นลมได้ สำหรับกลุ่มที่ไม่ควรสวมหน้ากาก คือ กลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ และผู้ที่มีโรคหรือข้อห้ามทางการแพทย์ เช่น ผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ
อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในตอนท้ายว่า การป้องกันโรคโควิด-19 นอกจากการสวมหน้ากากถูกวิธีแล้ว ยังคงต้องรักษามาตรการต่าง ๆ ควบคู่กันไปด้วย เช่น หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ เพราะมีโอกาส ที่จะนำมือมาสัมผัสใบหน้าโดยไม่รู้ตัว เว้นระยะห่างกับคนอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายสม่ำเสมอ ประเมินตนเองผ่าน "ไทยเซฟไทย" ทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน หรือก่อนเข้าสถานที่ทำงาน และหากมีอาการหรือไปในพื้นที่เสี่ยงควรตรวจด้วย ATK เพื่อประเมินความเสี่ยงที่อาจจะมีการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้