เมื่อไหร่ที่เรียกว่าไตวายจนต้องฟอกไต?
เมื่อไตทำงานลดลงจนเข้าสู่ไตเรื้อรังระยะที่ 5 หรือที่เรียกว่า ไตวายระยะสุดท้าย ร่างกายจะเกิดคั่งค้างของของเสีย น้ำ เกลือแร่ และกรดด่าง การเสียสมดุลของฮอร์โมนของร่างกาย ทำให้มีอาการ เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ซีด คัน บวมตามร่างกาย อึดอัด หอบ เหนื่อย นอนราบไม่ได้ ฯลฯ
ซึ่งผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ เรียกว่าการบำบัดทดแทนไตวิธีใดวิธีหนึ่งเช่น การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม การล้างไตทางช่องท้อง หรือการผ่าตัดปลูกถ่ายไต
มีคนเป็นไตวายจนต้องฟอกไตหรือล้างไตมากแค่ไหน?
ในประเทศไทยมีผู้ป่วยต้องฟอกไตทางเส้นเลือดมากกว่า 30,000 คน และล้างไตทางหน้าท้องมากกว่า 30,000 คนเช่นกัน
ซึ่งผู้ป่วยที่ต้องทำการฟอกเลือด หรือ ทำการล้างไตเพิ่มขึ้นทุกๆปี ปีนึงมากกว่า 6,000 คนสำหรับการฟอกเลือดทางเส้นเลือด และ 4,000 คนสำหรับการล้างไตทางช่องท้อง ส่วนเปลี่ยนไตนั้นทำได้เพียงปีละ 300-400 คนเท่านั้นแล้วถ้าไตวายจนต้องฟอกไตต้องทำไง ใครจะบอกเราได้?
คนที่จะบอกเราได้ว่าไตวายหลักๆแล้วจะเป็นคุณหมอ อายุรกรรมทั่วไป หรือ อายุรกรรมโรคไตครับ ซึ่งตามปกติแล้วก็ไม่ใช่การบอกแบบทันทีทันใด
ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะได้รับข้อมูลเบื้องต้นว่าไตเสื่อมระดับไหนแล้ว และ พอไตเสื่อมจนเข้าระดับ 4-5 คุณหมออายุรกรรมก็จะให้คำแนะนำเรื่องการบำบัดทดแทนไต เมื่อเราไตวายนั่นเอง (อันนี้คือไตวายเรื้อรังนะครับ อย่าไปสับสนกับไตวายเฉียบพลันมันคนละเรื่องกันเลยทีเดียว)
ทำไมต้องเตรียมตัว?
คงมีคนสงสัยว่าไตยังไม่วายจนระยะสุดท้าย อาการก็ปกติดีทำไมจะต้องไปเตรียมอะไรให้วุ่นวาย ก็ขออธิบายตรงนี้เลยครับว่าถ้าท่านไม่เตรียมตัวไว้ก่อนพอท่านต้องฟอกไตเพราะมีอาการน้ำท่วมปอด หรือ หอบเหนื่อยแล้วละก็ ท่านจะมีชีวิตที่วุ่นวายมากกว่าผู้ป่วยที่ได้เตรียมตัวมาอย่างดีหลาย 10 เท่า บางคนบอกว่าเตรียมแล้วไม่ได้ใช้จะเตรียมทำไม ผมอยากแนะนำว่า "เตรียมแล้วไม่ต้องใช้ถือเป็นกำไรชีวิตนะครับ"
การบำบัดทดแทนไตมี 3 วิธี คือ
1. การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (Hemodialysis)
2. การล้างไตทางช่องท้อง (Peritoneal Dialysis)
3. การผ่าตัดปลูกถ่ายไต (Kidney transplantation)วิธีไหนดีที่สุด?
วิธีที่ดีที่สุด
ก็คือการเปลี่ยนไตครับ แต่โอกาสที่จะได้เปลี่ยนนี่น้อยมากๆ ระดับที่เทียบได้กับการถูกหวยรางวัลที่ 1 เลยทีเดียว ดังนั้นผู้ป่วยส่วนมากก็จะต้องทำการฟอกเลือด หรือ ทำ การล้างไตทางช่องท้องเป็นส่วนใหญ่
ฟอกเลือด กับ ล้างทางช่องท้องอันไหนดีกว่ากัน?
อันนี้คำถามโลกแตกครับ อะไรดีกว่ากันคงตอบยากครับ แต่ทั้งสองอย่างทำให้ผู้ป่วยมีชีวิตรอดได้อีกหลายปีแน่ๆ 20ปี ก็ยังได้สบายๆถ้าดูแลตัวเองดีๆ
บางคนบอกฟอกลือดติดเชื้อน้อยกว่า บางคนก็บอกไม่จริง อันนี้คงตอบยากครับ เอาว่าถ้าผู้ป่วยดูแลตัวเองได้ดี แบบไหนก็ดีทั้งนั้น ถ้าให้แนะนำก้เลือกตามสิทธิ์ที่มีครับประหยัดไปเยอะครับปีนึงประหยัดหลายแสนครับ
แต่ถ้ามีเงินเหลือเฟืออันนี้ก็เลือกตามแต่สะดวกและชอบได้เลยครับ ชอบทำเองไม่ชอบไปโรงพยาบาลบ่อยๆ ก็ล้างไตผ่านทางหน้าท้อง ถ้าทำเองไม่สะดวกกลัวติดเชื้อต่างๆนาๆก็เลือกฟอกทางเ้นเลือดครับ
คราวนี้มาดูกันครับว่า 3 วิธีนั้น แตกต่างกันอย่างไร?