รู้ไหม!? ทำไมไม่ควรให้เด็กอายุต่ำกว่า1ขวบกินน้ำผลไม้
ไม่ควรให้เด็กอายุต่ำกว่า1ขวบกินน้ำผลไม้ สมาคมหมอเด็กสหรัฐเค้าบอกมา เป็นการแถลงที่ฮือฮามาก
เนื้อหาคือ
- น้ำผลไม้ไม่ให้คุณค่าทางโภชนาการที่มีประโยชน์ต่อทารกวัยน้อยกว่า 1 ปี ไม่ได้ให้คุณค่าที่เหนือกว่าผลไม้แก่เด็ก ... และไม่จำเป็นต่อมื้ออาหารที่เหมาะสมและมีคุณค่าของเด็ก
- น้ำผลไม้แบบ100%อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของมื้ออาหารของเด็กอายุเกิน 1 ปีได้ แต่ทั้งนี้ เครื่องดื่มรสผลไม้บางชนิดอาจจะไม่เทียบเท่าน้ำผลไม้
- ไม่ให้ใช้น้ำผลไม้มารักษาอาการท้องเสีย
- การกินน้ำผลไม้มากไป สัมพันธ์กับภาวะทุโภชนาการ ทั้งแบบเกินและขาด และสัมพันธ์กับ ท้องเสีย ท้องอืด ลมขึ้น ฟันผุ
- น้ำผลไม้แบบไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ อาจมีเชื้อที่ก่อโรคติดไปที่เด็กได้จึงควรหลีกเลี่ยง
- ถ้าให้น้ำผลไม้แบบหลากหลายในปริมาณเหมาะสมตามวัยก็โอเค
- น้ำผลไม้แบบผสมแคลเซี่ยม ให้แคลเซี่ยม แต่ขาดสารอาหารที่พบใน นมแม่ นมผง และนมวัว
โดยคำแนะนำของสมาคมกุมารแพทย์สหรัฐคือ
1. ไม่ควรให้เด็กต่ำกว่า12เดือนกินน้ำผลไม้(ยกเว้นมีข้อบ่งชี้)
โดย
1-3 ปี ไม่ควรเกิน 120mlต่อวัน
4-6 ปี ไม่ควรเกิน180 mlต่อวัน
7-18 ปี ไม่ควรเกิน 240mlต่อวัน
2. ไม่ควรให้เด็กเล็กกินน้ำผลไม้จากในขวดหรือกระติกถ้วยที่หิ้วไปกินที่ไหนก็ได้/ไม่ควรกินก่อนนอน
3.ควรสอนเด็กกินผลไม้เป็นผลๆ เพราะได้ไฟเบอร์ และได้พลังงานเข้าไปทีละน้อยกว่าแบบน้ำ
4. ครอบครัวและคนดูแล ควรรู้ว่า นมแม่และหรือนมผงสำหรับเด็กทารก / นมปราศจากไขมันหรือนมไขมันต่ำและน้ำ ก็ให้น้ำที่เพียงพอแล้ว
5. เด็กทารก เด็กเล็ก วัยรุ่น ไม่ควรดื่มน้ำผลไม้ที่ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์
6. ควรระวังการดื่มgrapefruitในเด็กที่กินยาบางชนิด
7. 8. 9. 10. ในการประเมินภาวะทุโภชนาการ ปวดท้องท้องเสียท้องอืดและฟันผุ แพทย์ควรประเมินและคุยเรื่องน้ำผลไม้ และควรคุยเรื่องความแตกต่างของน้ำผลไม้และเครื่องดื่มรสผลไม้
11. แพทย์ควรทุ่มเทสรรพกำลังในการลดการบริโภคน้ำผลไม้ในเด็ก และให้เลิกน้ำผลไม้ในเด็กที่น้ำหนักเกิน
12. (ข้าม)
สรุป ต่ำกว่า 1 ขวบ อย่าคั้นน้ำส้มให้กิน เพราะทำให้เด็กสุขภาพเสื่อม
ที่มาจาก FB ความรู้สนุกๆแบบหมอแมว
เนื้อหาคือ
- น้ำผลไม้ไม่ให้คุณค่าทางโภชนาการที่มีประโยชน์ต่อทารกวัยน้อยกว่า 1 ปี ไม่ได้ให้คุณค่าที่เหนือกว่าผลไม้แก่เด็ก ... และไม่จำเป็นต่อมื้ออาหารที่เหมาะสมและมีคุณค่าของเด็ก
- น้ำผลไม้แบบ100%อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของมื้ออาหารของเด็กอายุเกิน 1 ปีได้ แต่ทั้งนี้ เครื่องดื่มรสผลไม้บางชนิดอาจจะไม่เทียบเท่าน้ำผลไม้
- ไม่ให้ใช้น้ำผลไม้มารักษาอาการท้องเสีย
- การกินน้ำผลไม้มากไป สัมพันธ์กับภาวะทุโภชนาการ ทั้งแบบเกินและขาด และสัมพันธ์กับ ท้องเสีย ท้องอืด ลมขึ้น ฟันผุ
- น้ำผลไม้แบบไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ อาจมีเชื้อที่ก่อโรคติดไปที่เด็กได้จึงควรหลีกเลี่ยง
- ถ้าให้น้ำผลไม้แบบหลากหลายในปริมาณเหมาะสมตามวัยก็โอเค
- น้ำผลไม้แบบผสมแคลเซี่ยม ให้แคลเซี่ยม แต่ขาดสารอาหารที่พบใน นมแม่ นมผง และนมวัว
โดยคำแนะนำของสมาคมกุมารแพทย์สหรัฐคือ
1. ไม่ควรให้เด็กต่ำกว่า12เดือนกินน้ำผลไม้(ยกเว้นมีข้อบ่งชี้)
โดย
1-3 ปี ไม่ควรเกิน 120mlต่อวัน
4-6 ปี ไม่ควรเกิน180 mlต่อวัน
7-18 ปี ไม่ควรเกิน 240mlต่อวัน
2. ไม่ควรให้เด็กเล็กกินน้ำผลไม้จากในขวดหรือกระติกถ้วยที่หิ้วไปกินที่ไหนก็ได้/ไม่ควรกินก่อนนอน
3.ควรสอนเด็กกินผลไม้เป็นผลๆ เพราะได้ไฟเบอร์ และได้พลังงานเข้าไปทีละน้อยกว่าแบบน้ำ
4. ครอบครัวและคนดูแล ควรรู้ว่า นมแม่และหรือนมผงสำหรับเด็กทารก / นมปราศจากไขมันหรือนมไขมันต่ำและน้ำ ก็ให้น้ำที่เพียงพอแล้ว
5. เด็กทารก เด็กเล็ก วัยรุ่น ไม่ควรดื่มน้ำผลไม้ที่ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์
6. ควรระวังการดื่มgrapefruitในเด็กที่กินยาบางชนิด
7. 8. 9. 10. ในการประเมินภาวะทุโภชนาการ ปวดท้องท้องเสียท้องอืดและฟันผุ แพทย์ควรประเมินและคุยเรื่องน้ำผลไม้ และควรคุยเรื่องความแตกต่างของน้ำผลไม้และเครื่องดื่มรสผลไม้
11. แพทย์ควรทุ่มเทสรรพกำลังในการลดการบริโภคน้ำผลไม้ในเด็ก และให้เลิกน้ำผลไม้ในเด็กที่น้ำหนักเกิน
12. (ข้าม)
สรุป ต่ำกว่า 1 ขวบ อย่าคั้นน้ำส้มให้กิน เพราะทำให้เด็กสุขภาพเสื่อม
ที่มาจาก FB ความรู้สนุกๆแบบหมอแมว
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!