
หมอขอเตือน ระวังหลอกตรวจแพ้อาหารแบบแฝง ฟันเงินคนไทยอื้อ!
หน้าแรกTeeNee รวมเรื่องสุขภาพดีๆ โรคภัยไข้เจ็บ หมอขอเตือน ระวังหลอกตรวจแพ้อาหารแบบแฝง ฟันเงินคนไทยอื้อ!

นพ.ฒัชชณพงศ์ จงเจริญยานนท์ หมอเด็กเฉพาะทางโรคทางเดินหายใจและผู้ป่วยวิกฤต เจ้าของเพจหมอม็อด หมอเด็กขอเล่า เปิดเผยถึง "ด้านมืดของวงการแพทย์ เรื่องการตรวจภูมิแพ้แฝง"
"ด้านมืดของวงการแพทย์ที่คุณอาจไม่รู้มาก่อน" ที่เปรียบเสมือนเกมการตลาดที่อาศัยความไม่รู้ของประชาชน เป็นการสร้างโลกปลอมๆ ขึ้นมาเพื่อขายสินค้า มีคนไทยถูกหลอกสูญเสียเงินไปแล้วหลายล้านบาท และยังคงมีคนตกเป็นเหยื่ออยู่ทุกวัน
กระบวนการนี้อาจน่ากลัวกว่าแก๊ง Call Center เพราะเหยื่อจะเชื่ออย่างสนิทใจโดยไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกหลอก และเมื่อเชื่อแล้วก็จะไปบอกต่อคนอื่น รวมถึง Influencer บางคนที่ทำคลิปเผยแพร่ความเชื่อผิดๆ ต่อกันไปเหมือนโรคระบาดทางความเชื่อที่แพร่ระบาดแบบปากต่อปากโดยไม่รู้ตัวเรื่องที่กำลังพูดถึงคือ "การตรวจภูมิแพ้แฝง" มักเริ่มต้นด้วยคำโฆษณาที่จับต้องอาการทั่วไป เช่น อ่อนเพลีย, นอนไม่หลับ, ปวดหัว, ท้องอืด, หน้ามืด ตามัว โดยอ้างว่าอาจเกิดจากการแพ้อาหารบางอย่างแบบแฝง และเสนอให้ตรวจเลือดครั้งเดียวรู้ผลถึง 300 ชนิด
เมื่อหลงเชื่อ จะมีการเสนอให้เจาะเลือดตรวจหา "ภูมิคุ้มกันชนิด G" (IgG) เน้นย้ำว่าเป็นชนิด G โดยจะตรวจอาหารจำนวนมาก (100-300 ชนิด) เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือและคุ้มค่า ค่าใช้จ่ายในการตรวจมักอยู่ที่หลักหมื่น (10,000 - 40,000 บาท) และมักมีแพ็กเกจเสริมอื่นๆ พ่วงมาด้วย
ความจริงก็คือ ภูมิคุ้มกันชนิด G (IgG) ที่ร่างกายสร้างขึ้นตามธรรมชาตินั้น มีไว้เพื่อบอกว่าเรา "เคยกิน" สิ่งนั้นมาและร่างกาย "ทนต่ออาหารชนิดนั้นได้" (Tolerance) ซึ่งถ้าเรากินอะไรบ่อยๆ ค่า IgG ก็จะขึ้นสูงเป็นเรื่องปกติ ดังนั้น หากใครไปตรวจก็จะได้ผลเป็น "บวก" กับอาหารที่กินบ่อยๆ เสมอ ซึ่งผู้ขายรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว
สิ่งที่ถูกบิดเบือนทางบริษัทหรือคลินิกจะนำผลที่เป็นบวกนี้มาอ้างว่าคุณ "แพ้แฝง" ต่ออาหารชนิดนั้น และสั่งให้งด จากนั้นจะทำการ "ขายของพ่วง" เช่น อาหารเสริม, วิตามินสูตรเฉพาะบุคคล, คอร์สดีท็อกซ์ลำไส้ หรือโปรแกรมบำบัดต่างๆ ทำให้บางคนต้องเสียเงินรวมแล้วเป็นแสนบาท
เรื่องนี้เป็นการหลอกลวงระดับที่องค์กรแพทย์ทั่วโลก (ไทย, อเมริกา, ยุโรป, แคนาดา) ต้องออกมาเตือน
แพทย์ยืนยันชัดเจนว่า "อย่าตรวจภูมิคุ้มกันชนิด G เพื่อวินิจฉัยภูมิแพ้" เพราะมันไม่สามารถใช้วินิจฉัยอาการแพ้, แพ้แฝง หรือภาวะทนต่ออาหารไม่ได้ ตามที่ถูกแอบอ้าง
ทำไมคนถึงยังหลงเชื่อ?
สาเหตุที่ขายได้ดีเพราะปัจจุบันมีคนที่มีอาการเรื้อรังที่หาสาเหตุไม่ได้จำนวนมาก (เช่น อ่อนเพลีย ปวดหัว) ซึ่งจริงๆ แล้วอาการเหล่านี้มักเกิดจาก "ไลฟ์สไตล์ที่ไม่ดี"
ปัจจัยที่แท้จริงคือ การกินไม่ดี, นอนไม่พอ, ความเครียดสะสม, ขาดการออกกำลังกาย หรือมลภาวะเช่น PM 2.5
นักการตลาดมองเห็นโอกาสตรงนี้ จึงขายไอเดียว่าอาการทั้งหมดเกิดจาก "การแพ้แฝง" ซึ่งฟังดูเป็นทางออกที่ง่ายและตรงใจกว่าการปรับพฤติกรรม
คนส่วนใหญ่มักคิดว่าของแพงคือของดี ประกอบกับมี Influencer ช่วยโปรโมตข้อมูลผิดๆ ทำให้คนยิ่งเชื่อถือ
สิ่งที่ถูกต้องไม่ใช่การเอาเงินไปตรวจแล็บปลอมๆ แต่คือการหันกลับมาดูแลร่างกาย นอนให้ดี, กินอาหารที่มีประโยชน์, ออกกำลังกายสม่ำเสมอ, ลดความเครียด และเลี่ยง PM 2.5 หากทำได้ อาการเรื้อรังจะดีขึ้นแน่นอน
คุณหมอม็อดฝากให้ช่วยแชร์ข้อมูลนี้เพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นตกเป็นเหยื่อ และเรียกร้องให้แพทยสภาและสมาคมแพทย์ต่างๆ ออกมาให้ความรู้ในเรื่องนี้ให้เสียงดังกว่านี้ เพราะข้อมูลโฆษณาชวนเชื่อในอินเทอร์เน็ตมีมากกว่าข้อมูลที่ถูกต้อง ทำให้ประชาชนเข้าถึงความจริงได้ยาก
ชมคลิป
VVV
VV
V
VV
V
VV
VVV
VVVVV



กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว