ไมเกรนรู้ทันจัดการได้

หลายคนคิดว่าไมเกรนรักษาไม่ได้ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วเป็นโรคที่มียารักษาเพื่อไม่ให้เกิดอาการ ถ้าเราเข้าใจกลไกการเกิดโรคและหมั่นสังเกตอาการ เมื่อเราหาสาเหตุเจอและได้รับการรักษาที่ตรงจุดร่วมกับการเลือกใช้ยาได้อย่างเหมาะสม ก็จะไม่ต้องเผชิญกับไมเกรนอีกต่อไป

แนวทางป้องกันอาการปวดหัวไมเกรน
ถึงแม้ว่าอาการปวดหัวไมเกรนจะไม่เกิดอันตรายต่อสมอง แต่ก็สร้างความรำคาญและรบกวนไปถึงการใช้ชีวิตประจำวันในระยะยาวได้ การดูแลสุขภาพและเลือกใช้วิธีการรักษาที่เหมาะสม ก็จะสามารถช่วยบรรเทาอาการได้ โดยวิธีป้องกันแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

1. การใช้กลุ่มยา โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ

1.1 กลุ่มยาต้านอาการซึมเศร้า เช่น amitriptyline, nortriptyline ยากลุ่มนี้ มีประสิทธิภาพในการลดความถี่ของการเกิดไมเกรน เนื่องจากมีสรรพคุณที่ช่วยในการนอนหลับ และสามารถช่วยลดอาการปวดของโรคออฟฟิศซินโดรมร่วมด้วย

1.2 กลุ่มยากันชัก เช่น topiramate ยาชนิดนี้นับว่ามีประสิทธิภาพโดยเฉพาะสำหรับอาการปวดหัวไมเกรน โดยมีการศึกษาว่ายาตัวนี้ช่วยลดความถี่ในการเกิดไมเกรนช่วงที่มีประจำเดือนได้ประมาณ 33%

1.3 กลุ่มยาลดความดัน เช่น propranolol ยากลุ่มนี้มีประสิทธิภาพในการป้องกันไมเกรนร่วมกับการช่วยลดความดันโลหิตได้ด้วย จึงสามารถใช้กับผู้ป่วยปวดหัวไมเกรนที่มีโรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคร่วมได้

2. การใช้ยาโบท็อก
อาการปวดหัวไมเกรนแต่ละคนมีอาการที่แตกต่างกันซึ่งบางรายอาจไม่เหมาะกับการใช้กลุ่มยา ซึ่งวิธีการรักษาด้วยการใช้โบท็อกก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางในการรักษาไมเกรนได้ โดยโบท็อกจะเข้ามาช่วยยับยั้งการหดตัวของกล้ามเนื้อได้ดี โดยแพทย์จะใช้กับคนไข้ที่มีอาการปวดที่มากกว่า 15 ครั้ง หรือ 15 วันต่อเดือน ติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน การ Botulinum toxin ชนิด A ก็จะสามารถช่วยลดความรุนแรงและความถี่ของอาการปวดศีรษะไมเกรนได้

3. การใช้ยาฉีด
การฉีดยาชาเข้าที่เส้นประสาทบริเวณท้ายทอย เป็นการรักษาที่ได้ผลดีสำหรับโรคไมเกรนเรื้อรัง อีกทั้งไม่มีผลข้างเคียงหรือแทบไม่มีผลข้างเคียง นับว่าเป็นการรักษาที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่อาจจะทนรับผลข้างเคียงของยาป้องกันไมเกรนตัวอื่น ๆ ไม่ได้

วิธีการรักษา ทำได้โดยการฉีด anti CGRP เป็นกลุ่มยาตัวใหม่ที่สามารถออกฤทธิ์ได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เป็นยาที่มีผลในการยับยั้งการทำงานของ CGRP ในช่วงที่มีอาการไมเกรน ซึ่งแพทย์จะพิจารณาฉีดให้เดือนละครั้งหรือในทุก ๆ 3 เดือน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม สำหรับยาที่ใช้ฉีด ใช้ยา Aimovig ซึ่งเป็นยาป้องกันไมเกรนรุ่นใหม่ที่ FDA ได้ยอมรับให้ใช้ในทางการแพทย์ได้ โดยยาตัวนี้ใช้ป้องกันอาการปวดไมเกรนได้เฉพาะในผู้ใหญ่เท่านั้น ตัวยาสามารถป้องกันอาการปวดไมเกรนได้ทั้งผู้ที่มีอาการปวดแบบรุนแรงเป็นครั้งคราวไปจนถึงขั้นระดับเรื้อรัง

เนื่องจากอาการปวดไมเกรนของแต่ละบุคคลมีลักษณะ สาเหตุ และระดับความรุนแรงที่แตกต่างกัน วิธีป้องกันที่ดีที่สุด ผู้ป่วยควรหมั่นสังเกตอาการของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะสังเกตสิ่งกระตุ้นต่าง ๆ ที่มีผลทำให้เกิดอาการปวด และพยาบามหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นดังกล่าว และควรมาพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและเลือกวิธีการรักษาได้อย่างเหมาะสมที่สุด

เครดิตแหล่งข้อมูล :bnhhospital