โรคลมชักรักษาได้
โรคลมชักรักษาได้
โรคลมชักเป็นอาการผิดปกติทางระบบประสาทที่เรื้อรัง โดยผู้ป่วยจะมีอาการชักเกิดขึ้นซ้ำอยู่เรื่อยๆโดยไม่มีปัจจัยกระตุ้น โรคลมชักเป็นกลุ่มอาการที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย ตั้งแต่เด็กทารกไปจนถึงผู้สูงอายุ อาการชักเป็นอาการหลักของโรคลมชัก โดยเกิดจากระบบประสาทในสมองทำงานมากเกินปกติ
โรคลมชักมีกี่ประเภท
โรคลมชักมีอยู่หลายประเภท แต่ละประเภทมีอาการเฉพาะที่ไม่เหมือนกัน รวมถึงการรักษาและการพยากรณ์โรคที่แตกต่างกัน ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการเหม่อลอยหรือล้มลงทันที ขณะที่ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการเกร็งของกล้ามเนื้ออย่างรุนแรงหรือหมดสติ
ขั้นตอนการวินิจฉัยมีอะไรบ้าง
การวินิจฉัยโรคลมชักมีหลายขั้นตอน โดยแพทย์จะเริ่มจากการซักประวัติอย่างละเอียด ตรวจระบบประสาท ตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (MRI) และตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (EEG) ทีมแพทย์ผู้ชำนาญด้านระบบประสาทของบำรุงราษฎร์มีประสบการณ์สูงในการวินิจฉัยผู้ป่วยโรคลมชัก รวมถึงมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยในการช่วยวินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ
มีทางเลือกในการรักษากี่วิธี
การรักษาโรคลมชักในปัจจุบันทำได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
การรักษาด้วยยากันชัก แพทย์ผู้ชำนาญด้านระบบประสาทของบำรุงราษฎร์ทำงานร่วมกับนักพันธุศาสตร์เพื่อตรวจยีนดูการตอบสนองของยาแต่ละบุคคล (pharmacogenomic profile) ทำให้สามารถเลือกยาที่กันชักที่มีเหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย
การบำบัดด้วยอาหาร (dietary therapy) เช่น การกินอาหารแบบคีโตเจนิก ไดเอต (Ketogenic Diet)
การรักษาด้วยการกระตุ้นเส้นประสาทสมอง (vagus nerve stimulation) และการกระตุ้นสมองส่วนลึก (deep vein stimulation)
การผ่าตัด ในกรณีที่ต้องรักษาโรคลมชักด้วยการผ่าตัด เช่น รักษาด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล ก่อนผ่าตัดแพทย์จะทำการตรวจเพื่อค้นหาบริเวณที่ทำให้เกิดอาการของโรคประกอบด้วยวิธีการดังนี้
การตรวจติดตามการทำงานของสมองด้วยการถ่ายภาพวิดีโอคลื่นไฟฟ้าสมอง (video EEG epilepsy monitoring)
ตรวจการทำงานของสมองด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (Functional magnetic resonance imaging: fMRI)
การตรวจวินิจฉัยทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ (SPECT - Ictal single photon emission computed tomography)
การตรวจเพทสแกนร่วมกับสาร FDG (FDG-PET for cerebral glucose metabolism)
โรคลมชักเป็นโรคที่ซับซ้อนและมีอาการที่หลากหลาย จึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างครอบคลุมโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ เช่น การให้ยากันชัก การบำบัดด้วยอาหาร การกระตุ้นเส้นประสาทสมองและการผ่าตัด นอกจากนี้การรักษาโรคลมชักแบบเฉพาะบุคคลที่มีความจำเพาะเจาะจงและการเฝ้าติดตามอาการอย่างระมัดระวังยังเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วย ซึ่งต้องอาศัยทีมสหสาขาวิชาชีพที่มีความชำนาญในการดูแลรักษาโดยเน้นผู้ป่วยเป็นจุดศูนย์กลางของศูนย์โรคระบบประสาท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ที่มีความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยโรคลมชัก ไม่ว่าจะมีอาการซับซ้อนเพียงใดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เครดิตแหล่งข้อมูล :bumrungrad
โรคลมชักเป็นอาการผิดปกติทางระบบประสาทที่เรื้อรัง โดยผู้ป่วยจะมีอาการชักเกิดขึ้นซ้ำอยู่เรื่อยๆโดยไม่มีปัจจัยกระตุ้น โรคลมชักเป็นกลุ่มอาการที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย ตั้งแต่เด็กทารกไปจนถึงผู้สูงอายุ อาการชักเป็นอาการหลักของโรคลมชัก โดยเกิดจากระบบประสาทในสมองทำงานมากเกินปกติ
โรคลมชักมีกี่ประเภท
โรคลมชักมีอยู่หลายประเภท แต่ละประเภทมีอาการเฉพาะที่ไม่เหมือนกัน รวมถึงการรักษาและการพยากรณ์โรคที่แตกต่างกัน ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการเหม่อลอยหรือล้มลงทันที ขณะที่ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการเกร็งของกล้ามเนื้ออย่างรุนแรงหรือหมดสติ
ขั้นตอนการวินิจฉัยมีอะไรบ้าง
การวินิจฉัยโรคลมชักมีหลายขั้นตอน โดยแพทย์จะเริ่มจากการซักประวัติอย่างละเอียด ตรวจระบบประสาท ตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (MRI) และตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง (EEG) ทีมแพทย์ผู้ชำนาญด้านระบบประสาทของบำรุงราษฎร์มีประสบการณ์สูงในการวินิจฉัยผู้ป่วยโรคลมชัก รวมถึงมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยในการช่วยวินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ
มีทางเลือกในการรักษากี่วิธี
การรักษาโรคลมชักในปัจจุบันทำได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
การรักษาด้วยยากันชัก แพทย์ผู้ชำนาญด้านระบบประสาทของบำรุงราษฎร์ทำงานร่วมกับนักพันธุศาสตร์เพื่อตรวจยีนดูการตอบสนองของยาแต่ละบุคคล (pharmacogenomic profile) ทำให้สามารถเลือกยาที่กันชักที่มีเหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย
การบำบัดด้วยอาหาร (dietary therapy) เช่น การกินอาหารแบบคีโตเจนิก ไดเอต (Ketogenic Diet)
การรักษาด้วยการกระตุ้นเส้นประสาทสมอง (vagus nerve stimulation) และการกระตุ้นสมองส่วนลึก (deep vein stimulation)
การผ่าตัด ในกรณีที่ต้องรักษาโรคลมชักด้วยการผ่าตัด เช่น รักษาด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล ก่อนผ่าตัดแพทย์จะทำการตรวจเพื่อค้นหาบริเวณที่ทำให้เกิดอาการของโรคประกอบด้วยวิธีการดังนี้
การตรวจติดตามการทำงานของสมองด้วยการถ่ายภาพวิดีโอคลื่นไฟฟ้าสมอง (video EEG epilepsy monitoring)
ตรวจการทำงานของสมองด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (Functional magnetic resonance imaging: fMRI)
การตรวจวินิจฉัยทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ (SPECT - Ictal single photon emission computed tomography)
การตรวจเพทสแกนร่วมกับสาร FDG (FDG-PET for cerebral glucose metabolism)
โรคลมชักเป็นโรคที่ซับซ้อนและมีอาการที่หลากหลาย จึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างครอบคลุมโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ เช่น การให้ยากันชัก การบำบัดด้วยอาหาร การกระตุ้นเส้นประสาทสมองและการผ่าตัด นอกจากนี้การรักษาโรคลมชักแบบเฉพาะบุคคลที่มีความจำเพาะเจาะจงและการเฝ้าติดตามอาการอย่างระมัดระวังยังเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วย ซึ่งต้องอาศัยทีมสหสาขาวิชาชีพที่มีความชำนาญในการดูแลรักษาโดยเน้นผู้ป่วยเป็นจุดศูนย์กลางของศูนย์โรคระบบประสาท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ที่มีความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยโรคลมชัก ไม่ว่าจะมีอาการซับซ้อนเพียงใดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เครดิตแหล่งข้อมูล :bumrungrad
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!