ตาพร่ามัว…อย่าชะล่าใจ ระวังเบาหวานขึ้นจอตา
ตาพร่ามัว...อย่ามองข้าม! ภัยเงียบ "เบาหวานขึ้นจอตา" อาจนำไปสู่การตาบอดถาวร
เนื่องในวันเบาหวานโลก 2567 จักษุแพทย์เตือนคนวัยทำงานอายุ 30 ปีขึ้นไป ให้ใส่ใจสุขภาพตาและตรวจเช็คเป็นประจำ เพราะ 24-31% ของผู้ป่วยเบาหวานในไทยมีภาวะแทรกซ้อนทางดวงตา ซึ่งหนึ่งในอาการที่น่ากังวลคือ "ภาวะจุดรับภาพชัดบวมจากเบาหวานขึ้นจอตา" (DME) ที่อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นถาวรโดยไม่รู้ตัว
ภัยเงียบที่มาพร้อมโรคเบาหวาน
ภาวะ DME เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้เส้นเลือดในจอประสาทตาเสียหายและจุดรับภาพบวม สถิติในไทยพบว่าผู้ป่วยเบาหวานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันมีผู้ป่วยใหม่ประมาณ 3 แสนคนต่อปี และมีผู้ป่วยรวมกว่า 6.9 ล้านคน โดยในจำนวนนี้ 1 ใน 4 มีความเสี่ยงเกิดภาวะ DME ซึ่งอาการในระยะแรกมักไม่แสดงชัดเจน ทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่ทราบถึงความรุนแรงของโรค
นวัตกรรมรักษาที่ช่วยลดภาระ
จากเดิมการรักษาภาวะ DME มักใช้เลเซอร์ ซึ่งช่วยชะลอโรคแต่ไม่ฟื้นฟูการมองเห็น ปัจจุบันมีการพัฒนายาฉีดที่ยับยั้งกลไก VEGF และ Ang-2 ที่ช่วยลดการงอกและการรั่วของเส้นเลือดในจอประสาทตา ออกฤทธิ์ยาวนาน ทำให้ผู้ป่วยบางรายต้องฉีดยาเพียง 1 ครั้งใน 3-4 เดือน ส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
ตัวอย่างผู้ป่วยที่รับมือได้ทันเวลา
คุณอัจฉรา เซ่งฮะ นักธุรกิจวัย 51 ปี เคยละเลยสุขภาพจนพบว่าตนเองเป็นเบาหวานระยะที่ 3 และมีอาการเส้นเหมือนใยแมงมุมในดวงตา โชคดีที่ได้รับการรักษาทันเวลา การมองเห็นของเธอจึงกลับมาปกติ เธอฝากข้อคิดว่า "อย่าประมาทกับสุขภาพ ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย และตรวจตาเป็นประจำ"
คำแนะนำจากจักษุแพทย์
ผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวานหรือมีความเสี่ยงควร:
- ควบคุมน้ำตาลในเลือด ให้อยู่ในระดับปกติ
- ตรวจสุขภาพตาอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อวินิจฉัยและรักษาได้ทันที
- หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่หรือการละเลยการรักษา
อย่าชะล่าใจ! ภัยเงียบอย่างเบาหวานขึ้นจอตาอาจพรากการมองเห็นไปตลอดกาล หากมีอาการหรือข้อสงสัย ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อป้องกันโรคและดูแลสุขภาพตาให้ดียิ่งขึ้น!