ศิริราชผลิต CAR T-Cell ต้นทุนต่ำ เปิดโอกาสการเข้าถึงการรักษามะเร็ง

   โรงพยาบาลศิริราช ได้บรรลุความสำเร็จครั้งสำคัญในการพัฒนาและผลิต CAR T-Cell (Chimeric Antigen Receptor T-Cell) ภายในประเทศ ซึ่งถือเป็นการก้าวสู่ยุคของการรักษาโรคมะเร็งด้วย เทคโนโลยีการแพทย์แม่นยำ (Precision Medicine) และ ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ขั้นสูง (Advanced Therapy Medicinal Products; ATMPs) โดยมุ่งเน้นการทำลายเซลล์มะเร็งอย่างจำเพาะเจาะจง

กลไกการรักษาด้วย CAR T-Cell:

CAR T-Cell Therapy เป็นกระบวนการบำบัดด้วยยีน โดยแพทย์จะนำ เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดที (T-cell) ของผู้ป่วยออกมา

จากนั้นใช้ เทคโนโลยีทางพันธุวิศวกรรม ปรับแต่งให้เซลล์ T-cell เหล่านี้มี ตัวรับ (Receptor) พิเศษที่เรียกว่า Chimeric Antigen Receptor (CAR) ซึ่งสามารถจดจำและทำลาย แอนติเจน บนผิวของเซลล์มะเร็งได้อย่างแม่นยำ

เซลล์ที่ได้รับการปรับแต่งจะถูกเพาะเลี้ยงเพิ่มจำนวน และนำกลับเข้าสู่ร่างกายของผู้ป่วยเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการทำลายเซลล์มะเร็ง

กระบวนการผลิตมาตรฐานสูงและต้นทุนต่ำ:

กระบวนการผลิต CAR T-Cell เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการผลิตที่ดี (Good Manufacturing Practice, GMP) โดยใช้ ระบบการผลิตกึ่งอัตโนมัติแบบปิด ภายในห้องปฏิบัติการปลอดเชื้อ

กระบวนการผลิตใช้เวลาประมาณสองสัปดาห์ พร้อมการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดในทุกขั้นตอน

ความสำเร็จนี้ส่งผลให้ ต้นทุนการผลิตลดลงเหลือเพียงประมาณหนึ่งในสิบ ของต้นทุนเชิงพาณิชย์ที่มีมูลค่าสูงถึง 15-20 ล้านบาทต่อครั้ง ซึ่งช่วย เพิ่มโอกาสในการเข้าถึง การรักษาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงนี้แก่ผู้ป่วยชาวไทย

การประยุกต์ใช้และการเป็นทางเลือกใหม่ในการรักษา
ปัจจุบัน CAR T-Cell ที่ผลิตโดยโรงพยาบาลศิริราชถูกนำมาใช้ในการรักษา โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (Leukemia) และ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma) ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มมะเร็งของระบบเลือดที่มักตอบสนองต่อการรักษาด้วยเคมีบำบัดได้ยาก การบำบัดด้วย CAR T-Cell จึงเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสูงและสามารถนำผู้ป่วยบางรายเข้าสู่ ภาวะโรคสงบ (Remission) ได้

ข้อได้เปรียบของการรักษาด้วย CAR T-Cell

ความปลอดภัยสูง: ใช้เซลล์เม็ดเลือดขาวของผู้ป่วยเอง จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการปฏิเสธจากร่างกาย

ความแม่นยำสูง: มีความจำเพาะต่อเซลล์มะเร็ง ทำให้ลดผลข้างเคียงจากการทำลายเซลล์ปกติในร่างกาย

การรักษาเฉพาะบุคคล (Personalized Therapy): เป็นการออกแบบการรักษาที่เน้นประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละรายโดยเฉพาะ