ผู้คนสมัยนี้เมื่อเวลาไปไหนมาไหน นัดเจอกับเพื่อนๆในกลุ่ม หรือพบเจอกับดารา นักร้อง ก็มักจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเซลฟี่กันทั้งนั้น หรือบางคนก็ชอบเซลฟี่ตัวเองเพื่ออัพรูปลง ไอจี เฟสบุ๊ซ ทวิตเตอร์ จนการถ่ายรูปแบบเซลฟี่นั้นได้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปแล้ว รู้หรือไม่ว่า!! การเซลฟี่อาจจะเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้ผิวหน้าเหี่ยวแห้งเร็วก่อนวันอันควรได้ มันจริงหรือ ??????
เป็นเรื่องของหญิงสาวคนหนึ่ง ชื่อบล็อกเกอร์ อายุ 26 ปี ที่ชอบถ่ายรูปเซลฟี่ตัวเองเฉลี่ยวันละ 50 รูป แล้วเธอก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของเธอ!! ...... ปรากฏว่าผิวหน้ามีรอยหมองคล้ำ และเริ่มมีริ้วรอยจางๆ จากนั้นเธอได้ไปพบหมอผิวหนัง เพื่อปรึกษาปัญหาที่เกิดขึ้นกับใบหน้าของเธอ หมอได้สันนิษฐานว่าอาจมีต้นเหตุมาจากแสง HEV (High Energy Visible) จากหน้าจอโทรศัพท์ที่ส่องเข้าไปทำร้ายเซลล์ผิวหนังของเธอ
โจซัว ไซค์เนอร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำแผนกผิวหนังที่ Mount Sinai Medical Center กล่าวว่า มีงานวิจัยที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าแสดงจากหน้าจอโทรศัพท์ แท็บเลต และคอมพิวเตอร์ เป็นตัวกระทำให้ผิวหน้าดูแก่กว่าวัยได้จริงๆ โดย " HEV จะเร่งการสร้างเม็ดสี ทำให้ใบหน้าเกิดจุดหมองคล้ำ ทำลายการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว และอาจร้ายแรงถึงขั้นเป็นมะเร็งผิวหนังได้เลย!!" แต่ก็ยังมีปัจจัยที่ร่วมด้วยช่วยกันทำให้ผิวแก่เร็ว คือ รังสี UV ในแดด ซึ่งมีความอันตรายมากกว่าแสง HEV โดยที่การอยู่หน้าจอ 100 ปี ยังไม่เท่ากับการออกไปอยู่กลางแสงแดด 1 วัน เต็มๆ
เพราะฉะนั้นวิธีการป้องกันที่ดีที่สุดควรทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน และทาครีมที่ลดรอยคล้ำ จุดด่างดำ โดยเฉพาะสาวที่ทำงานในออฟฟิศทั้งหลายที่อยู่หน้าจอทั้งวัน แถมเล่นโทรศัพท์กันทั้งวัน ควรจะป้องกันไว้ดีกว่าแก้ !!!
ขอขอบคุณเนื้อหาและภาพจาก ไทยรัฐ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
