รู้หรือไม่! ยืน-เดิน-นั่ง-นอน ผิดท่าอาจทำป่วยได้
คุณเพ็ญพิชชากร แสนคำ ผู้จัดการคลินิกกายภาพบำบัดอริยะ ชั้น 1 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (อาคารคิวเฮ้าส์ ลุมพินี) แนะนำว่า การใช้ชีวิตประจำวัน หนีไม่พ้นอิริยาบถ ยืน เดิน นั่งและนอน ท่าทางเหล่านี้มีผลกระทบต่อโครงสร้างร่างกาย หากอยู่ในท่าทางที่ผิด มักเป็นการสะสมความผิดปกติให้กับร่างกาย
และก่อให้เกิดโรคในที่สุด จึงจำเป็นที่ต้องตระหนักถึงการอยู่ในอิริยาบถที่ถูกต้อง
การทดสอบว่าเรายืดหรือดึงสะบักมากไปหรือไม่ ให้ลองดึงสะบักผลักหัวไหล่ไปด้านหลังให้เต็มที่ แล้วปล่อยกลับครึ่งหนึ่ง ครึ่งหนึ่งนั้นนั่นคือการดึงสะบักและผลักหัวไหล่ที่พอดีสำหรับตัวเรา ซึ่งไม่เกร็งเกินไป ค้างไว้เช่นนี้ตลอดเวลาที่นึกได้
เวลานั่งใช้คอมพิวเตอร์ ข้อมือต้องอยู่ระดับเดียวกับข้อศอก หากเก้าอี้มีที่พักแขนก็ทำให้กล้ามเนื้อไม่ต้องทำงานหนักมากไป ท่านั่งบางท่าทำให้โครงสร้างร่างกายเสียสมดุลได้ และในระยะยาวก็ทำให้เป็นโรคร้ายแรง เช่น นั่งไขว่ห้างทำให้กระดูกสันหลังคด เสี่ยงต่อหมอนรองกระดูก นั่งหลังค่อมไหล่งุ้ม คอยื่น ทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อมทับเส้นประสาท อาจทำให้อ่อนแรง-ชาที่มือ ปวดคอเรื้อรัง ทำให้การทำงานของปอดและหัวใจไม่มีประสิทธิภาพ ฯลฯ
ท่านอนที่ถูกต้อง และทำให้โครงสร้างระบบกระดูกกล้ามเนื้อผ่อนคลาย คือ ท่านอนหงาย มีหมอนรองใต้เข่า หมอนหนุนศีรษะต้องหนุนใต้หัวไหล่เล็กน้อย ศีรษะต้องอยู่แนวเดียวกันกับลำตัว ที่นอนก็ต้องไม่นิ่มจนเกินไป
การนอนตะแคงอาจเหมาะกับผู้มีปัญหาเรื่องการหายใจ แต่ในทางโครงสร้างร่างกาย การนอนตะแคงจะทำให้น้ำหนักตัวกดทับหัวไหล่ คอด้านที่นอนทับจะพับกดการไหลเวียนของเลือดและเส้นประสาท มักพบว่าคนไข้ที่มีอาการปวดไหล่ ไหล่ติด ปวดคอด้านเดียว หันคอไม่ได้ หรือที่เรียกอาการคอตกหมอน ปวดร้าวลงแขน แขนชา มากกว่า 80% มักมาจากการนอนตะแคง
การเดินที่ถูกนั้น สังเกตง่ายๆ คือตอนลงน้ำหนักขาด้านไหน กล้ามเนื้อขาด้านนั้นต้องหดตัว
ส่วนรูปแบบการเดินที่ถูกต้องนั้น เริ่มจากการลงน้ำหนักที่เท้าแล้วค่อยๆ ถ่ายน้ำหนักมาตรงกลางเท้า และปลายเท้าแล้วค่อยยกเท้าลอย ตอนที่ลงน้ำหนักขานั้นเป็นช่วงที่ต้องขมิบก้นไว้เพื่อให้สะโพกไม่บิด เกินไป