สรุปกินอะไรได้บ้าง?! เผยอาหารที่มี ไขมันทรานส์ สูง ไขมันตัวร้ายอันตรายถึงชีวิต!
หน้าแรกTeeNee รวมเรื่องสุขภาพดีๆ ข่าวสุขภาพและสุขภาพทั่วไป สรุปกินอะไรได้บ้าง?! เผยอาหารที่มี ไขมันทรานส์ สูง ไขมันตัวร้ายอันตรายถึงชีวิต!
กำลังเป็นกระแส และประเด็นสำหรับผู้ประกอบการ และผู้บริโภคอยู่ในขณะนี้เมื่อเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย “อาหารที่มีไขมันทรานส์” โดยให้มีผลบังคับใช้อีก 180 วัน หรืออีก 6 เดือนข้างหน้า เลยทำให้ผู้บริโภคก็ออกมาตื่นตระหนกที่เรื่องนี้เช่นกัน เรามาทำความรู้จักกับอาหารประเภทไหนบ้างที่มีส่วนประกอบของ ไขมันทรานส์ ผสมอยู่เป็นจำนวนมาก
ไขมันทรานส์ (Trans Fat) คือ กรดไขมันที่เกิดจากกระบวนการแปรรูปกรดไขมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันพืช ให้เป็นกรดไขมันอิ่มตัวสูง โดยการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partially Hydrogenated Oils) กระบวนการแปรรูปไขมันนี้เรียกว่า "ไฮโดรจีเนชั่น" (Hydrogenation) ซึ่งจะทำให้อาหารคงความแข็งตัวที่อุณหภูมิห้อง มีอายุการเก็บนาน ชะลอการเหม็นหืน โดยที่เนื้อสัมผัสของอาหารไม่แห้ง และมีรสชาติดี เช่น เนยเทียม มาร์การีน ครีมเทียม
อาหาร หรือส่วนประกอบของอาหารที่มีไขมันทรานส์ ได้แก่
เนยขาว มาร์การีน ครีมเทียม ครีมเทียมข้นหวาน (ที่นิยมนำมาใช้ทำขนม ผสมเครื่องดื่มต่างๆ แทนเนยสด ครีมจริง หรือนมข้นหวานล้วน) ดังนั้นเราถึงพบอาหารที่มีไขมันทรานส์สูงในอาหารตระกูลขนมหวานฝรั่งอย่าง คุกกี้ เค้ก โดนัท วิปครีม พาย ขนมกรุบกรอบต่างๆ อาหารฟาสต์ฟู้ดต่างๆ เครื่องดื่มต่างๆ และอาหารที่มีส่วนประกอบที่กล่าวไว้ข้างต้นทั้งหมด
ไขมันทรานส์อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิดนะคะ โดยเฉพาะคนที่ชอบกินขนมอบ เบเกอรี่ หรือเค้กน่าอร่อย ๆ ทั้งหลาย นี่แหละแหล่งอุดมไขมันทรานส์ซึ่งเป็นไขมันอันตรายที่สุดในวงการไขมันเลย ดังนั้นใครไม่อยากเสี่ยงเป็นโรคเรื้อรังอันตรายอย่างโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง หรือโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด บอกคำเดียวว่าเลี่ยงไขมันทรานส์ได้ก็อย่ารอช้า หรืองดไขมันทรานส์ทุกชนิดเลยยิ่งดี
ไขมันทรานส์อยู่ในอาหารประเภทไหน
ด้วยความที่ไขมันทรานส์เกิดมาจากการแปรรูปน้ำมันพืชชนิดเหลวให้กลายเป็นไขมันชนิดแข็ง ไขมันทรานส์จึงพบมากที่สุดในมาร์การีนชนิดแท่ง เนยขาว คุกกี้ เค้ก แครกเกอร์ เฟรนช์ฟรายส์ และโดนัท รวมไปถึงบรรดาอาหารประเภททอดทั้งหลายก็มีไขมันทรานส์แอบแฝงอยู่ด้วยเช่นกัน ดังนั้นเพื่อภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เรามีตารางบอกปริมาณไขมันทรานส์ในอาหารแต่ละชนิดจากปริมาณอาหาร 100 กรัม จากกลุ่มวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการ กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข มาให้ดูง่าย ๆ ตามนี้เลย
ไขมันทรานส์ถูกจัดให้เป็นไขมันที่อันตรายต่อสุขภาพจนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) สั่งแบนไขมันทรานส์และบังคับให้ผู้ประกอบการด้านอาหารยุติการใช้ไขมันทรานส์เป็นหนึ่งในส่วนประกอบของอาหาร โดยมีกำหนดจะกำจัดไขมันทรานส์ออกไปจากแผ่นดินอเมริกาภายในระยะเวลา 3 ปี นับจากนี้ และที่เมืองไทยเอง กระทรวงสาธารณสุข ออกประกาศกระทรวงฯ ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายใน 180 วัน นับจากวันที่ 11 ก.ค. 2561
อาจจะเป็นเรื่องยากหากเราไม่ได้ซื้อวัตถุดิบมาปรุงอาหารเอง หรือในท้องตลาดอาจจะมีวัตถุดิบที่ปราศจากไขมันทรานส์ได้น้อย แต่หลังจากมีการประกาศให้ผู้ผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีไขมันทรานส์หยุดการผลิต จำหน่าย และเร่งปรับปรุงสูตรเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ประกอบอาหารที่ไม่มีไขมันทรานส์ได้แล้ว (ใช้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนเต็มส่วน หรือ Fully Hydrogenated Oils แทน) เชื่อว่าคนไทยน่าจะหาอาหาร หรือวัตถุดิบทำอาหารที่ดีต่อสุขภาพได้ง่ายมากยิ่งขึ้น แม้ว่าจะต้องแลกมากับต้นทุนค่าใช้จ่ายที่อาจจะสูงบขึ้น แต่หากเราได้ทานอาหาร และขนมที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น คนไทยก็จะได้ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคต่างๆ น้อยลงเช่นเดียวกัน
ขอบคุณที่มา sanook , kapook
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!