เรามักจะได้ยินกันบ่อยว่า เมื่ออายุมากขึ้นโดยเฉพาะในวัยเลข 4 เลข 5 มาเยือน จำเป็นจะต้องไปตรวจสุขภาพประจำปี เพราะจะได้ตรวจหาความเสี่ยงของโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ทำให้รู้ก่อน จะได้รีบรักษาก่อนได้ทันท่วงที แต่บางครั้งการตรวจสุขภาพเมื่ออายุเราเลยวัย 40 - 50 ปีไปแล้วนั้นอาจจะเรียกว่าช้าเกินไปก็เป็นได้ เพราะบางคนกลับตรวจเจอว่าเป็นโรคต่าง ๆ แล้วมากมาย โดยเฉพาะโรคในกลุ่มโรคเรื้อรังต่าง ๆ ได้แก่ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคตับหรือแม้แต่โรคไต เป็นต้น จะดีกว่าไหมถ้าเรารีบตรวจสุขภาพกันก่อนในช่วงที่อายุยังไม่มากเพื่อที่จะป้องกัน รักษาโรคต่าง ๆ ได้ทันท่วงที
การตรวจสุขภาพในช่วงวัยผู้ใหญ่ วัยทำงาน หรือแม้แต่วัยเรียนไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไปแล้วนะครับ เพราะในปัจจุบันการตรวจสุขภาพมีความสำคัญในแง่ของ การตรวจเพื่อคัดกรองโรค ทำนายความเสี่ยงในการเกิดโรค และสำคัญที่สุดคือ การป้องกันโรคร้ายแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้
ดังนั้น คนในวัยเรียนหรือวัยทำงานจึงควรหาโอกาสมาตรวจสุขภาพสักครั้งเพื่อให้คุณหมอได้สอบถามประวัติสุขภาพทั่วไปของตัวเราเอง ตรวจร่างกาย และตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะควบคู่ไปด้วย การตรวจทางห้องปฏิบัติการ (Lab test) เบื้องต้นที่แนะนำให้ตรวจในช่วงวัยนี้ ได้แก่
[1] ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (Complete blood count: CBC) เพื่อดูปริมาณเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาวและเกร็ดเลือด จะได้รู้ว่าเรามีปัญหาเลือดจางไหม (โรคโลหิตจาง) เม็ดเลือดขาว เกร็ดเลือด เราเป็นไงบ้าง บางครั้งการตรวจเม็ดเลือดก็สามารถบอกถึงพฤติกรรมทางสุขภาพของเราโดยตรง เช่น ภาวะเลือดจางจากการขาดธาตุเหล็ก ขาดกรดโฟลิก หรือ ขาดวิตามินบี 12 เป็นต้น
[2] ระดับน้ำตาลในเลือด (Fasting blood glucose) และ น้ำตาลสะสมในเลือด (HbA1C) ใช้คัดกรองโรคเบาหวานในปัจจุบัน รวมไปถึงกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวานได้เช่นเดียวกัน ซึ่งหากเราทราบว่าเป็น #กลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวาน (Impaired fasting glucose) จะได้รีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินการอยู่ให้ดีขึ้นนั่นเอง
[3] ระดับไขมันในเลือด (Lipid profile) คอเลสเตอรอล (Cholesterol) และ ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) เป็นสิ่งที่เราควรให้ความสนใจและควรตรวจเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะเจ้าไขมันเลว หรือ LDL คอเลสเตอรอล ที่เป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจและหลอดเลือด การที่เราทราบระดับไขมันต่าง ๆ ในเลือดจะทำให้วางแผนการใช้ชีวิตเพื่อให้มีสุขภาพดีต่อไปได้ ทั้งด้านอาหารการกิน การออกกำลังกาย เป็นต้น
[4] ค่าการทำงานของไต (BUN และ Creatinine) และ ค่าการทำงานของตับ (Liver enzymes เช่น SGOT SGPT ALP GGT เป็นต้น) การตรวจดูการทำงานของอวัยวะทั้ง 2 อย่างนี้ เป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ เพราะบางครั้งเราอาจมีค่าการทำงานที่ผิดปกติโดยที่ไม่มีอาการใด ๆ เลยก็เป็นได้ ดังนั้น หากได้มาตรวจก่อน ก็จะทราบก่อน ทำให้ป้องกันและรักษาได้อย่างรวดเร็วนั้นเอง
[5] ตรวจปัสสาวะ (Urinalysis หรือ UA) เป็นการตรวจเพื่อดูประสิทธิภาพการทำงานของระบบทางเดินปัสสาวะที่ดีและราคาถูกอีกอัน เพราะทำให้เรารู้ได้ว่าปัสสาวะที่ผ่านการกรองจากไตลงมาจนถูกขับออกมาทางท่อปัสสาวะนั้นเป็นอย่างไรบ้าง มีน้ำตาล โปรตีน เม็ดเลือด หรือแบคทีเรียปนเปื้อนออกมาด้วยหรือไม่ ? ซึ่งเราจะทราบได้หมดจากการตรวจปัสสาวะ
[6] การตรวจเอ็กซ์เรย์ทรวงอก (Chest x-rays) และ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) เป็นการตรวจดูว่าเรามีปัญหาเกี่ยวกับปอดและการทำงานของหัวใจหรือไม่ ? ในแต่ละปีที่ผ่านไป เนื่องจากบางครังเราอาจจะไม่มีอาการผิดปกติอะไรแสดงออกมาให้เห็นได้ ดังนั้น การตรวจทั้ง 2 อย่างนี้จึงถือว่ามีประโยชน์มากครับ
[7] การตรวจอื่นๆ ได้แก่ อัลตร้าซาวด์ช่องท้อง มวลกระดูก ระดับวิตามินดีในเลือด ฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ไทรอยด์ ฮอร์โมนเพศหญิง เพศชาย หรือแม้เเต่การตรวจด้วยเครื่องมือหรือเทคนิกพิเศษอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละคนตามอายุ เพศ และสุขภาพนะครับ
ดังนั้น "การตรวจสุขภาพ" จึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวเราเลย เป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญมาเป็นลำดับแรก เพื่อการมีสุขภาพที่ดีทั้งในปัจจุบันและอนาคต สุขภาพดีจึงเป็นสิ่งที่เราสร้างได้ เริ่มด้วยการที่เราหันกลับมาดูแลตัวเอง ใส่ใจสุขภาพของตัวเราเองให้มากขึ้น ด้วยการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปีนะครับ





กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว