เมื่อผู้ป่วยสูญเสียฟันธรรมชาติ มักจำเป็นต้องใส่ฟันทดแทน ซึ่งมีได้หลากหลายวิธี ได้แก่ ใส่ฟันถอดได้ ใส่ฟันแบบสะพานฟัน และ ใส่รากฟันเทียม
สำหรับการใส่รากฟันเทียมนั้น เข้ามามีบทบาทอย่างมากในการทดแทนฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป โดยมีหลายวิธี เช่น ถอนฟันแล้วใส่รากฟันทันที หรือ ใส่รากฟันเทียมแบบการทำศัลยกรรมแบบขั้นตอนเดียว หรือ สองขั้นตอน (ใส่รากเทียมแล้วฝังอยู่ใต้เหงือก และ ต้องกลับมาเปิดผ่าตัดอีก 1 ครั้ง) ซึ่งมักใช้ในกรณีที่มีการปลูกกระดูก เช่น ฟันหน้าบน เป็นต้น หรือ การผ่าตัดโดยไม่เปิดเหงือกกว้าง หรือ การผ่าตัดโดยการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาช่วย เป็นต้น
เมื่อใส่รากเทียมแล้วมักจะต้องรอประมาณ 2-3 เดือน ก่อนที่จะเริ่มใส่ฟันปลอบบนรากฟันเทียม ซึ่งต้องใช้เวลาในการใส่ฟันประมาณ 1-3 สัปดาห์ เมื่อผู้ป่วยใส่ฟันแล้วก็จะสามารถใช้งานได้เหมือนฟันธรรมชาติ
วัสดุที่นำมาทำรากฟันเทียม คือ "ไทเทเนียม" ซึ่งจะไม่มีโอกาสผุเหมือนฟันธรรมชาติ สำหรับวัสดุที่ทำครอบฟันก็จะเป็นโลหะอย่างดี ร่วมกับ พอร์ซเลน หรือวัสดุที่ใกล้เคียงกัน ตัวครอบฟันบนรากเทียมอาจเกิดการแตกหักได้ แต่ทันตแพทย์ก็สามารถแก้ไขได้โดยไม่ต้องนำรากฟันเทียมออก
แต่สิ่งที่ผู้ป่วยที่ได้รับการใส่รากฟันเทียมควรทราบก็คือ รากฟันเทียมอาจเสียได้ ถ้าไม่รักษาความสะอาดรากฟันเทียมให้ถูกต้อง
การดูแลรักษารากฟันเทียมจะเหมือนกับการดูแลฟันธรรมชาติ ซึ่งทำได้โดยการแปรงฟันให้ถูกวิธี (ใช้แปรงขนนิ่ม และ เน้นการทำความสะอาดบริเวณคอฟัน) ร่วมกับการใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ก่อนนอน การใช้ไหมขัดฟันเป็นสิ่งที่จำเป็น เนื่องจากการแปรงฟันอย่างเดียวไม่สามารถทำความสะอาดบริเวณที่ฟันติดกันได้ ถ้าเราไม่ทำความสะอาดให้ถูกวิธี รากฟันเทียมจะมีคราบจุลินทรีย์ไปเกาะ และเชื้อโรคที่อยู่ในนั้นก็จะปล่อยกรดออกมาทำลายกระดูก และ เหงือก เมื่อกระดูกถูกทำลายมากขึ้นก็จะทำให้รากเทียม มีเลือดออก โยก ปวด และ อาจต้องนำรากเทียมออก
ดังนั้น เราควรให้ความสำคัญกับการดูแลรักษารากฟันเทียม โดยการแปรงฟันร่วมกับการใช้ไหมขัดฟันที่ถูกวิธี เพื่อให้รากฟันเทียมอยู่กับคุณตลอดไป

Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday