เปิด 6 ท่าบริหารปอดเเข็งเเรง-ห่างไกลโควิด

เป็นที่รับรู้ และเข้าใจโดยทั่วไปว่า โควิด-19 เป็นโรคที่มีผลกับระบบหายใจ และบุคคลที่มีโรคปอด เป็นโรคประจำตัว ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสำคัญที่จะได้รับผลกระทบรุนแรง หากได้รับเชื้อโควิด-19

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัยได้เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โรคโควิด-19 ระลอก 3 ซึ่งมีความรุนแรงกว่าที่ผ่าน ๆ มานั้น กลุ่มเสี่ยง คือผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับปอด เช่น โรคปอด หอบหืด รวมทั้งผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคอ้วน ยังคงเป็นกลุ่มเสี่ยงลำดับต้น ๆ และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

โดยเฉพาะกลุ่มโรคปอด ดังนั้น การบริหารปอด จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยบรรเทาความรุนแรง และช่วยในการฟื้นฟูสมรรถภาพปอดของผู้ป่วยอีกด้วย ซึ่งทุกคนสามารถทำได้ด้วยตนเองได้ที่บ้าน โดยหลักการเสริมสร้างสมรรถภาพปอด ทำได้ด้วยการฝึกการขยายตัวของปอด ยืดเหยียดกล้ามเนื้อทรวงอกและกล้ามเนื้อกระบังลม วิธีทำนั้นก็ง่ายมากๆ สามารถทำตามกันได้เลย

สำหรับวิธีฝึกเสริมความแข็งแรงปอดสามารถทำได้ 6 ท่า ดังนี้

ท่าที่ 1 พุงป่อง

นั่งตัวตรง
วางมือทั้งสองข้างที่หน้าท้อง
หายใจเข้าท้องป่อง แต่อกไม่ขยาย หายใจออกท้องแฟบ

ท่าที่ 2 อกนิ่ง

นั่งตัวตรง
วางมือซ้ายบริเวณหน้าอก มือขวาวางบริเวณใต้ลิ้นปี่
หายใจเข้าท้องป่อง แต่อกไม่ขยาย หายใจออกท้องแฟบ

ท่าที่ 3 ขยับซี่โครง

นั่งตัวตรง มือทั้งสองข้างวางบริเวณตำแหน่งชายโครงด้านข้าง
หายใจเข้าทางจมูกให้ซี่โครงบานออก หายใจออกช้าๆทางปากให้ซี่โครงหุบลง

ท่าที่ 4 ชูมือ ยืดอก

หายใจเข้าทางจมูกพร้อมยกแขนทั้งสองข้างขึ้นด้านหน้า
หายใจออกทางปากยาวๆ พร้อมผ่อนแขนลง

ท่าที่ 5 กางปีก ขยายปอด

ยกแขนขึ้นประสานกันด้านหน้า หายใจเข้าทางจมูก พร้อมกางแขนออกด้านข้างทั้งสองข้าง
หายใจออกทางปากยาวๆ กลับสู่ท่าเดิม

ท่าที่ 6 ยืดสะบัก ขยับศอก

มือทั้งสองข้างประสานท้ายทอยหายใจเข้าทางจมูก พร้อมกางข้อศอกออก
หายใจออกทางปากยาวๆ พร้อมกับหุบศอกและโก่งหลัง
สำหรับการหายใจเข้าและออกแต่ละครั้งใช้เวลาครั้งละประมาณ 5 วินาที ทำ 10 ครั้งต่อรอบ 3-5 รอบ พัก 30-60 วินาที ระหว่างรอบ

อย่างไรก็ตาม ใน 6 ท่า จะช่วยเพิ่มความสามารถในการหายใจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดอาการเหนื่อย หายใจลำบาก ช่วยขับเสมหะ และป้องกันการเกิดภาวะปอดแฟบ

นี่เป็นเพียงการช่วยบริหารปอดให้แข็งแรงขึ้นเท่านั้น การป้องกันที่ดีที่สุด รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับให้เพียงพอ ทำตามมาตรการอย่างจริงจัง และฉีดวัคซีน

เครดิตแหล่งข้อมูล : innnews