หยุดทำร้ายสมอง ด้วยการนอน-ดื่มน้ำ ไม่ถูกวิธี
สมองคนเราพัฒนาได้ทุกช่วงวัย
"เราจำและเรียนมาผิดๆว่า พอโตระดับหนึ่งแล้วสมองจะไม่โต ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดมาก" นายสุทธิ มโนกิจจรูญมั่น ผู้ก่อตั้ง และ CEO บริษัท ไรท์วิว วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด และศูนย์พัฒนาสมอง BINGO ยืนยันว่า เราสามารถอัพเกรดสมองได้ทุกวัย และตลอดเวลาด้วย เพียงแต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
อีกทั้งความเข้าใจผิดดังกล่าวส่งผลให้คนเราไม่เข้าใจเรื่องสมองว่าสำคัญอย่างไร และต้องดูแลอย่างไร จนนำมาสู่ปัญหาเรื่องสมอง อาการป่วยซึมเศร้า รวมถึงอาการเจ็บป่วยทางร่างกายในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคมะเร็ง โรคสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์ ฯลฯ ที่เราไม่คิดว่ามีสาเหตุมาจากสมอง
ส่วนใหญ่คิดกันโรคร้ายที่เราป่วยด้วยโรคร้ายเหล่านี้เป็นเพราะยีน หรือเป็นผลจากพันธุกรรม แต่ในความเป็นจริงพันธุกรรมมีผลแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ อีก 25 เปอร์เซ็นต์ขึ้นอยู่กับกระบวนการใช้ชีวิต และความเครียดสะสม
เพราะทุกครั้งที่คนเราเครียด สมองจะหลั่งฮอร์โมนความเครียด ซึ่งเปลี่ยนเป็น Neuro Peptide เป็นเคมีไปกระตุ้นที่เซลล์และยีน ถึงดีเอ็นเอ แล้วผลิตโปรตีนที่เป็นลบ ทำให้ภูมิคุ้มกัน Immune System อ่อนแอ ส่งผลให้อวัยวะส่วนที่อ่อนแอเกิดเป็นโรคร้ายในเวลาต่อมา
เมื่อประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง จะส่งผลตั้งแต่ความเครียด อาการเจ็บป่วยทางกาย ทางใจ ซึ่งเราสามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลฝึกฝนสมองของเราให้ทำงานอย่างสมดุล
การดูแลสมองในขั้นพื้นฐานต้องทำอย่างไร? ผู้ก่อตั้งศูนย์พัฒนาสมอง BINGO กล่าวว่า เริ่มตั้งแต่การนอน คนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าการนอนมีผลต่อสมอง ถ้านอนอย่างถูกต้องสามารถเพิ่มเซลล์สมองได้
การนอนที่มีประโยชน์คือช่วงเวลา 22.00 น. -02.00 น. เป็นช่วงนาทีทอง ที่ทำให้เกิดการหลั่งโกรทฮอร์โมน ซึ่งเป็นฮอร์โมนหลักที่ผลิตจากต่อมใต้สมอง คอยควบคุมการเจริญเติบโตและการทำงานของอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย การสร้างเซลล์ใหม่ การทำงานของระบบสมอง และเอนไซม์
การนอนหลังเวลา 22.00 น. แทบไม่ได้ประโยชน์เลย แทนที่จะเพิ่มเซลล์สมอง เรากลับทำร้ายสมอง พูดง่ายๆว่าเรานอนแล้วทำให้ตัวเองอายุสั้นลง หรือสมองแย่ลง
ระหว่างวันเราเกิดความคิดต่างๆ มากมายซึ่งบางทีเป็นลบ การนอนที่ถูกต้องจะเป็นช่วงของการเอาพิษออกจากสมองโดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย แต่คนไม่รู้ ไม่ได้นอนให้ถูกเวลาและนอนได้อย่างมีคุณภาพ คือนอนให้เกิด deep quality sleep หลับลึก ซึ่งถ้าทำได้ก็จะเกิดโกรทฮอร์โมน
ตื่นปุ๊บเล่นมือถือปั๊บ ทำร้ายสมองโดยตรง
นอกจากนี้ หลังตื่นตอน ต้องตื่นด้วยความรู้สึกมีมติ และปรับคลื่นสมองทันทีเมื่อลืมตาให้คลื่นสมองของเราเป็นบวก หลายคนไม่รู้ตัวตื่นขึ้นมาก็จะเครียดทันที เช่น ไปคิดถึงปัญหาเมื่อคืนวันก่อน หรือแม้กระทั่งปัญหาวันนี้ว่าต้องทำอะไรบ้าง หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า
หรือตื่นปุ๊บก็หยิบโทรศัพท์มือถือมาเปิดดูนั่นโน่นนี่ทันที หนึ่งชั่วโมงแรกหลังตื่นไม่ควรเล่นโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นการทำร้ายสมองที่ชัดเจนมาก
วินาทีที่เราลืมตาคลื่นสมองกำลังเปลี่ยนเป็นช่วงวินาทีทองเช่นกัน ถ้าปรับให้คลื่นสมองเป็นบวกได้จะดีมาก ตัวอย่างง่ายๆ เมื่อตื่นแล้วนึก ขอบคุณใคร หรือสิ่งใดก็ได้ให้เกิดโมเมนท์ที่มีความสุข ทิ้งเรื่องรกสมองไปก่อน พอเป็นบวกตั้งแต่วินาทีแรก การทำให้สมองมีความสุขไปทั้งวันมันจะง่าย
สมองต้องการน้ำ-ออกซิเจน
อาหารสมองก็เป็นเรื่องสำคัญ อาหารที่สำคัญที่สุดของสมอง คือ 1.ออกซิเจน สมองต้องการออกซิเจนมากที่สุดเลย แต่เราไม่ค่อยให้ความสำคัญตรงนี้ วิธีการได้ออกซิเจนมีหลายวิธี ตั้งแต่การออกกำลังกาย การสูดหายใจอย่างถูกวิธี การทำสมาธิ รวมถึงไม่ทานอาหารที่มีสารพิษ เพราะจะได้คาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งทำร้ายสมอง
นอกจากออกซิเจน ที่สำคัญมากเช่นกันคือ 2.น้ำ สมองมีน้ำถึง 80 เปอร์เซ็นต์ แล้ว 80 เปอร์เซ็นต์หล่อเลี้ยงสมองตลอดเวลา ถ้าดื่มน้ำไม่พอ สมองจะค่อยๆ แย่ลง และบางทีมันตื้อ คิดไม่ออก
ฉะนั้นหลังตื่นนอนสิ่งแรกที่ต้องรับประทานไม่ใช่อาหาร แต่ต้องดื่มน้ำก่อน 1-2 แก้ว เพราะช่วงนอน 7-8 ชั่วโมง ร่างกายไม่ได้น้ำเลย น้ำถูกใช้ไปหมด จึงเป็นเรื่องสำคัญ แล้วรับประทานน้ำให้ได้วันละ 7-8 แก้ว
ศาสตร์ใหม่พัฒนาสมอง
การดูแลสมองไม่ใช่เรื่องเกินความสามารถ แต่ก็เป็นหลักการพื้นฐานเบื้องต้นเท่านั้น หากทำได้ควรฝึกฝนสมองให้ทำงานอย่างสมดุล เพื่อเข้าใจถึงการทำงานของสมองอย่างท่องแท้
จึงเป็นที่มาของการก่อตั้ง ศูนย์พัฒนาสมอง BINGO (BRAIN INTERGRATED NEURO GENESIS OPTIMIZATION) เพื่อนำเสนอศาสตร์ "อัพเกรดสมอง เพิ่มพลังชีวิต" ที่จำเป็นต่อคนทุกเพศวัย
ศูนย์ฯร่วมงานกับผู้เชี่ยวชาญหลายสาขาในการออกแบบโปรแกรมพัฒนาสมองครั้งแรกของไทย ที่เพิ่มพลังสมอง ด้วยหลักวิทยาศาสตร์ 7 Neuro Genesis และ 5 BRAIN-SYNC เพื่อสมดุลสมอง 2 ซีก 5 ส่วน ที่จะทำงานประสานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการสร้างเซลล์สมองใหม่ด้วยพลังทั้ง 7 ด้าน ซึ่งได้สอนให้ทั้งชาวไทยและต่างชาติมาแล้วทั้งในเยอรมนี และเนเธอร์แลนด์
"คอร์สของเราเปลี่ยนวิทยาศาสตร์ที่มีความซับซ้อน ให้เป็นรื่องง่ายและสนุก มีกิจกรรมเพื่อสร้างประสบการณ์ตรงให้เกิดทักษะการใช้สมองทั้ง 5 ส่วนทันที โดยเรานำเครื่องมือทันสมัยมาใช้ เช่น มีเครื่อง EEG ที่สามารถวัดคลื่นสมอง เป็น real-time Biofeedback ให้ผู้ร่วมสัมมนาแต่ละคนได้เห็นการทำงานของสมองตนเองได้อย่างเป็นรูปธรรม และพิสูจน์ได้ทันที มีกิจกรรมฝึกสมองที่สนุกและโดดเด่น
ผู้สนใจอัพเกรดสมองด้วยศาสตร์ดังกล่าว โดยเฉพาะวัยทำงานหรือใกล้เกษียณ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน คลายเครียด ช่วยให้หลับง่ายขึ้น ลดโอกาสการเกิดโรคร้ายต่างๆ
ทางศูนย์ฯกำลังจะจัดสัมมนา "อัพเกรดสมอง เพิ่มพลังชีวิต รุ่นที่ 8" ในวันเสาร์ที่ 14 พ.ย. เวลา 08.30 - 17.30 น. ที่โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท
ทั้งนี้ 70% ของกำไร จะส่งต่อไปยังนักเรียนและกลุ่มผู้ด้อยโอกาส ที่ผ่านมาศูนย์ได้เข้าไปอบรมฝึกทักษะด้านสมองให้แก่เยาวชนในสถานพินิจบ้านปรานี และอุปการะเด็ก 15 คน สนับสนุนองค์กรสาธารณะถึง 5 แห่งเป็นประจำ รวมถึง ซีซีเอฟ โสสะ ศุภนิมิต ยูนิเซฟ และสภากาชาดไทย ตามนโยบาย Social Enterprise ขององค์กรด้วย