หากเป็นบ่อยๆ ก็คงไม่ค่อยมีใครอยากเข้าใกล้หรือคุยด้วยสักเท่าไหร่ ซึ่งบางคนก็รู้ตัวว่าตนเองมีปัญหา แต่แก้ไขอย่างไรกลิ่นนั้นก็ยังไม่หมดไป แต่บางคนก็ไม่รู้ตัวว่าตัวเองมีกลิ่นปากเพราะคนใกล้ตัวไม่กล้าเตือน
สำหรับใครที่ลองแก้ไขมาหลายวิธีแล้ว แม้จะหมั่นแปรงฟัน ใช้น้ำยาดับกลิ่น แต่กลิ่นที่ว่ายังคงอยู่ นี่อาจเป็นสัญญาณบางอย่างที่ร่างกายกำลังอยากจะบอกกับคุณ...
มาเช็กกันดูดีกว่าว่าสัญญาณเหล่านี้บ่งบอกอะไรให้คุณได้บ้าง กับกลิ่นลมหายใจบอกโรคที่นำมาฝาก
กลิ่นลมหายใจหอมคล้ายกลิ่นผลไม้ แน่นอนว่ากลิ่นผลไม้ย่อมมีกลิ่นที่หอมหวาน น่าสูดดมเข้าใกล้ แต่รู้หรือไม่ เมื่อไหร่ที่ลมหายใจคุณมีกลิ่นแบบนี้ ให้ระวังให้ดี เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณของโรคเบาหวานที่กำลังคุกคามร่างกายคุณอยู่
กลิ่นลมหายใจมีกลิ่นคาว ถ้าคุณรู้สึกว่าลมหายใจของคุณมีกลิ่นคาว อาจแสดงให้เห็นว่าคุณกำลังมีความเสี่ยงของโรคตับอักเสบ เพราะฉะนั้นหมั่นรักษาอนามัยส่วนบุคคลให้ดี ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร รับประทานอาหารที่สุก สะอาด ล้างมือทุกครั้งหลังการขับถ่าย จะช่วยป้องกันโรคตับอักเสบได้
กลิ่นลมหายใจเหม็นคาวคล้ายโรงเลี้ยงสัตว์ ถ้าคุณเจอกลิ่นนี้ คุณอาจจะกำลังเผชิญกับโรคติดต่อร้ายแรง หรือโรคไข้ทรพิษได้
กลิ่นลมหายใจเหม็นเน่าปนกลิ่นคาวเลือด ลองสังเกตดูสิว่าคุณเป็นโรคเลือดออกตามไรฟันอยู่หรือเปล่า
กลิ่นลมหายใจคล้ายกลิ่นเนย ให้ระวังไว้ว่า คุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคไซนัสอักเสบ ให้รีบรักษาร่างกายให้แข็งแรงโดยด่วน รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายบ่อยๆ
กลิ่นลมหายใจคล้ายกลิ่นปัสสาวะ สัญญาณของโรคไตเริ่มเตือนคุณแล้ว ซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายขับของเสียออกไม่หมด และมีการดูดของเสียกลับเข้าสู่กระแสเลือด ใครเป็นแบบนี้อยู่ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว
กลิ่นลมหายใจคล้ายขนมปังเหม็นบูด อาจเกิดจากการขาดสารอาหาร หรือได้รับอาหารไม่เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ รวมถึงการขาดสารอาหารพวกไนอาซิน และวิตามินบี 6
กลิ่นลมหายใจคล้ายกลิ่นฝรั่งสุก มักพบในผู้ป่วยที่ได้รับสารพิษจากฟอสฟอรัสเข้าไป
ไม่น่าเชื่อนะคะว่ากลิ่นลมหายใจบอกโรคได้จริงๆ...ซึ่งกลิ่นเหล่านี้เป็นเพียงอาการเบื้องต้นที่ร่างกายพยายามจะส่งสัญญาณให้เรารู้ ซึ่งปัญหากลิ่นลมหายใจอาจจะสังเกตได้ยาก บางครั้งต้องให้คนรอบข้างเป็นผู้ช่วยบอก เพื่อที่เราจะได้นำมาสังเกตอาการร่างกายของเราเอง เพื่อนำไปสู่การพบโรคบางอย่างที่เราคาดไม่ถึง จะได้หาทางรักษาแต่เนิ่นๆ เพราะแม้แต่คนที่ไม่มีกลิ่น ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะรอดพ้น หรือไม่เป็นโรคเหล่านั้น...ที่สำคัญเอาคำเตือนเหล่านั้นมาปรับปรุงบุคลิกภาพของเราให้ดีขึ้น คนรอบข้างจะได้อยากเข้าใกล้ ไม่เบือนหน้าหนีค่ะ