รู้จักโรคแพ้ภูมิตัวเอง ที่พรากชีวิต ‘โจว ไห่เหม่ย’ ในวัย 57 ปี


รู้จักโรคแพ้ภูมิตัวเอง ที่พรากชีวิต ‘โจว ไห่เหม่ย’ ในวัย 57 ปี


จากกรณีข่าวช็อกวงการบันเทิงจีน และฮ่องกง หลังสื่อฮ่องกง รายงานว่า โจว ไห่เหม่ย วัย 57 ปี นักแสดงชื่อดังซึ่งเป็นที่รู้จักกับบทบาท "ดาบมังกรหยก" ฉบับไต้หวัน เวอร์ชันปีพ.ศ. 2537 (1994) กับบทบาท จิวจี้เยียก และกลับมารับบทเป็น "แม่ชีมิกจ้อ" ในละครรีเมคเรื่อง "ดาบมังกรหยก" ในปี 2019 ได้เสียชีวิตแล้ว

ทั้งนี้ ตามการรายงานของสตูดิโอ ข่าวเศร้าดังกล่าว ถูกประกาศผ่านแม่และครอบครัวของเธอ โดยระบุว่า นักแสดงสาวชื่อดัง เสียชีวิตในวันที่ 11 ธันวาคม ทั้งนี้ โจวไห่เหม่ย ป่วยหนักด้วยอาการ Systemic Lupus Erythematosus (SLE) หรือลูปัส ซึ่งเป็นโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ก่อให้เกิดการอักเสบและทำลายอวัยวะต่างๆ โดยเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของร่างกาย

สำหรับ โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) โรคร้ายจากภูมิคุ้มกันผิดปกติ พญ.กัลยกร เชาว์วิศิษฐ ได้ให้ข้อมูลไว้ ผ่านเว็บไซต์โรงพยาบาลกรุงเทพ ว่า
โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) เป็นโรคร้ายที่ยังไม่สามารถหาสาเหตุได้ แต่มีข้อบ่งชี้แสดงอาการป่วยในหลาย ๆ อวัยวะร่วมกันโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งอาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันหรือต่างช่วงเวลาก็ได้ มีอาการเป็น ๆ หาย ๆ ของแต่ละอาการเป็นระยะ และอาการรุนแรงของโรคที่แตกต่างกัน อาจมีข้อบ่งชี้โรคแพ้ภูมิตัวเอง SLE ได้

รู้จักโรคแพ้ภูมิตัวเอง

โรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE (Systemic Lupus Erythematosus) คือโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน โดยภูมิคุ้มกันของคน ๆ นั้นทำลายเนื้อเยื่อภายในร่างกายของตัวเองจนเกิดการอักเสบและสามารถทำให้เกิดความผิดปกติกับอวัยวะได้ทั่วร่างกาย พบได้ในเพศหญิงมากกว่าเพศชายในช่วงวัยเจริญพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยร่วมอื่น ๆ ที่สัมพันธ์กับการเกิดโรคได้ เช่น กรรมพันธุ์ (อาจจะมีสารพันธุกรรมบางชนิดที่สัมพันธ์กับการเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง) ส่วนปัจจัยที่กระตุ้นให้โรคกำเริบมากขึ้น ได้แก่ การติดเชื้อภายในร่างกาย แสงแดด เป็นต้น หากป่วยเป็นโรคนี้ร่างกายจะมีการสร้างโปรตีนชนิดหนึ่งขึ้นมาชื่อว่า Antinuclear Antibody ทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคได้ชัดเจน

อาการของโรคนี้จะแสดงความผิดปกติในร่างกายในหนึ่งอวัยวะหรือหลายอวัยวะ ที่พบได้บ่อยคือ ปวดข้อ เป็นไข้ตั้งแต่ไข้ต่ำ ๆ จนถึงไข้สูง อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร เกิดผื่นผิวหนังตามใบหน้า แขน ขา ที่อยู่บริเวณนอกเสื้อผ้า ผมร่วง มีสภาวะเลือดจาง เม็ดเลือดขาวต่ำ เกล็ดเลือดต่ำ ถ้าโรครุนแรงอาจมีเม็ดเลือดแดงแตก ปอดอักเสบ ไตอักเสบ

สำหรับ การตรวจวินิจฉัยโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE ต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์ที่ทำการรักษาเป็นสำคัญ ส่วนใหญ่แพทย์จะวินิจฉัยจากประวัติของผู้ป่วย การตรวจร่างกายพบรอยโรคร่วมกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น การตรวจเลือด ปัสสาวะ การตรวจเอกซเรย์หัวใจและปอด ฯลฯ

ส่วนการรักษาโรคแพ้ภูมิตัวเอง เป็นโรคเรื้อรังที่ต้องติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพราะการรักษาที่สม่ำเสมอช่วยทำให้โรคสงบได้ โดยแพทย์จะเริ่มทำการรักษาจากการประเมินความรุนแรงของอาการที่ผู้ป่วยเป็นว่ามากน้อยแค่ไหน เพราะแต่ละคนอาการจะมีความรุนแรงของโรคไม่เท่ากัน หลังจากนั้นจึงวางแผนการรักษาและการให้ยา ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมาก เกิดการอักเสบของร่างกายในหลายระบบ แพทย์อาจพิจารณาการใช้ยาสเตียรอยด์หรือยากดภูมิเพื่อคุมโรค ดังนั้นผู้ป่วยแต่ละคนจึงได้ยาแตกต่างกันตามความรุนแรงของโรค

ข้อควรปฏิบัติของผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) คือ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการออกแดด ลดและหลีกเลี่ยงการติดเชื้อด้วยการทานอาหารที่สะอาด รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ ไม่ลดหรือเพิ่มยาเอง มาตรวจหรือพบแพทย์ตามนัดอย่าให้ขาด เพราะการพบแพทย์และได้รับรักษาอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ผู้ป่วยกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ



รู้จักโรคแพ้ภูมิตัวเอง ที่พรากชีวิต ‘โจว ไห่เหม่ย’ ในวัย 57 ปี


รู้จักโรคแพ้ภูมิตัวเอง ที่พรากชีวิต ‘โจว ไห่เหม่ย’ ในวัย 57 ปี


รู้จักโรคแพ้ภูมิตัวเอง ที่พรากชีวิต ‘โจว ไห่เหม่ย’ ในวัย 57 ปี


รู้จักโรคแพ้ภูมิตัวเอง ที่พรากชีวิต ‘โจว ไห่เหม่ย’ ในวัย 57 ปี


รู้จักโรคแพ้ภูมิตัวเอง ที่พรากชีวิต ‘โจว ไห่เหม่ย’ ในวัย 57 ปี


รู้จักโรคแพ้ภูมิตัวเอง ที่พรากชีวิต ‘โจว ไห่เหม่ย’ ในวัย 57 ปี


รู้จักโรคแพ้ภูมิตัวเอง ที่พรากชีวิต ‘โจว ไห่เหม่ย’ ในวัย 57 ปี


รู้จักโรคแพ้ภูมิตัวเอง ที่พรากชีวิต ‘โจว ไห่เหม่ย’ ในวัย 57 ปี

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์