พาราเซตามอล ใช้ถูกวิธีมีประโยชน์
ยาพาราเซตามอล ได้ถูกผลิตขึ้นมาหลากหลายขนาด เพื่อตอบโจทย์การรักษาอาการตามแต่ละบุคคล ทั้งชนิดน้ำ สามารถทานง่าย เหมาะสำหรับเด็ก หรือชนิดเม็ด สำหรับผู้ใหญ่
วิธีการทานยาพาราเซตามอลให้เหมาะสมกับน้ำหนักตัว
ยาน้ำสำหรับเด็ก มีความเข้มข้นต่างๆ ดังนี้
น้ำหนักตัวไม่ถึง 10 กก. ทานครั้งละ 60มก./0.6 มล. หรือ 80 มก./0.8 มล.
น้ำหนักตัว 12 - 15 กก. ทานครั้งละ 120, 125มก./ช้อนชา
น้ำหนักตัว 16 - 24 กก. ทานครั้งละ 160 มก./ช้อนชา
น้ำหนักตัว 25 - 40 กก. ทานครั้งละ 250 มก./ช้อนชา
ยาพาราเซตามอล ขนาด 325 มิลลิกรัม
น้ำหนัก 22-33 กิโลกรัม ทานครั้งละ 1 เม็ด
น้ำหนัก 34-44 กิโลกรัม ทานครั้งละ 1 เม็ดครึ่ง
น้ำหนัก 45-67 กิโลกรัม ทานครั้งละ 2 เม็ด
ยาพาราเซตามอล ขนาด 500 มิลลิกรัม
น้ำหนัก 33-50 กิโลกรัม ทานครั้งละ 1 เม็ด
น้ำหนัก 51-67 กิโลกรัม ทานครั้งละ 1 เม็ดครึ่ง
น้ำหนัก 67 กิโลกรัมขึ้นไปทานครั้งละ 2 เม็ด
ยาพาราเซตามอล ขนาด 650 มิลลิกรัม (ออกฤทธิ์นาน 8 ชั่วโมง)
น้ำหนัก 44 กิโลกรัมขึ้นไป ทานครั้งละ 2 เม็ด
ผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี หรือ มีน้ำหนักตัวน้อยกว่า 44 กิโลกรัม ไม่แนะนำให้ใช้ยานี้เพราะอาจทำให้เกิดพิษต่อตับได้
ผู้ใหญ่อายุ 18 ปีขึ้นไปที่มีน้ำหนักตัวตั้งแต่ 44 กิโลกรัมขึ้นไป รับประทานครั้งละ 2 เม็ด ห่างกันอย่างน้อย 8 ชั่วโมง
วิธีการรับประทานยาพาราเซตามอล
1. การรับประทานยาพาราเซตามอลควรรับประทานห่างกันอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง โดยใน 1 วันไม่ควรรับประทานยาเกิน 4,000 มิลลิกรัม
2. หากใช้ยาไปแล้วอาการต่างๆไม่ดีขึ้นเช่น ไข้ไม่ลดลงภายใน 3 วัน หรือ อาการปวดไม่บรรเทาภายใน 5-10 วัน ควรไปพบแพทย์เนื่องจากอาจเป็นอาการของโรคอื่นๆได้
การรับประทานยามากเกินไป (overdose) จะทำให้ส่งผลเสียได้อย่างไร
การรับประทานยามากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ โดยยาพาราเซตามอลหากได้รับเกินขนาด (150 มก./กก. ของน้ำหนักตัว ภายในครั้งเดียว หรือรับประทานต่อเนื่องเกิน 150 มก./กก.ของน้ำหนักตัว ภายใน 1-2 วัน) อาจส่งผลทำให้ผู้ที่ได้รับมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ซึม ความดันลดลง และในบางรายที่รับประทานเกินขนาดมากๆ อาจส่งผลให้การทำงานของตับและไตเสียได้
ข้อควรระวังในการใช้ยา
1. ผู้ป่วยที่มีภาวะโรคตับไม่ควรใช้ยาตัวนี้เนื่องจากอาจทำให้การทำงานของตับแย่ลงมากยิ่งขึ้น
2. ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาพาราเซตามอลโดยเกิดผื่น คัน แดง แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก หากเกิดอาการดังกล่าว ควรหยุดใช้ยาทันทีและรีบกลับไปพบแพทย์ทันที
ให้ทานทันทีที่นึกได้ และทานเม็ดต่อไปหลังจากนั้น 4 - 6 ชั่วโมง โดยไม่ต้องทานครั้งเดียว 2 เท่า