เมตาบอลิกซินโดรมกว่าจะรู้ก็เป็นซ่ะแล้ว

สวัสดีเช้าวันพฤหัสบดีในวันที่ท้องฟ้าครึ้ม ๆ วันนี้ครับ อากาศบ้านเราเปลี่ยนแปลงไวเหลือเกิน เมื่อวานร้อนตับแตก มาวันนี้ก็ฝนตก เอาเป็นว่าเตรียมตัวให้พร้อมเป็นดีที่สุดครับ วันนี้หมอหล่อขอหยิบเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพอีกเรื่องหนึ่ง มาเล่าให้ฟังนะครับ เป็นเรื่องเกี่ยวกับ #ภาวะเมตาบอลิกซินโดรม (Metabolic syndrome) นั่นเอง เราคงเคยได้ยินได้ฟังมาบ้างแล้ว แต่ถ้าใครยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร วันนี้มาหาคำตอบให้นะครับ

>> ภาวะเมตาบอลิกซินโดรม ก็คือ กลุ่มความผิดปกติที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดและโรคเบาหวานที่ฮอตฮิตติดตลาดโรคประจำตัวในบ้านเราและทั่วโลก พบร่วมกันได้บ่อย ได้แก่ ภาวะไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง และระดับน้ำตาลในเลือดสูง นั่นเอง ความน่ากลัวก็คือ #เมตาบอลิกซินโดรม เป็นสาเหตุทของโรคที่เป็นสาเหตุการตายมากที่สุดของมนุษย์เราในปัจจุบัน อันได้แก่ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes Mellitus) และโรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular diseases) เช่น เส้นเลือดหัวใจตีบ เส้นเลือดสมองตีบและแตก เป็นต้น

>> เราจะทราบได้อย่างไรว่าเรามีภาวะเมตาบอลิกซินโดรม ?
ก็ต้องมาดูกันครับว่า เราใช้เกณฑ์อะไรมาบอกว่าใครเริ่มมีภาวะนี้แล้วบ้าง เกณฑ์ที่ว่านี้ที่อัพเดทล่าสุดเป็นของ Harmonizing the Metabolic Syndrome : A Joint Interim Statement of the International Diabetes Federation Task Force on Epidemiology and Prevention; National Heart, Lung, and Blood Institute; American Heart Association; World Heart Federation; International Atherosclerosis Society; and International Association for the Study of Obesity 2009 (ชื่อยาวมากกกก ไม่ต้องสนใจครับ แค่อ้างอิงที่มามาให้ดูเฉยๆ)

>> ซึ่งการวินิจฉัยภาวะเมตาบอลิกซินโดรมนั้น จะต้องมีความผิดปกติอย่างน้อย 3 ข้อใน 5 ข้อ ต่อไปนี้ ได้แก่ (Alberti et al.,2009)

1) ขนาดเส้นรอบวงเอวที่เป็น ภาวะอ้วนลงพุง (abdominal obesity) คือ เส้นรอบวงเอว ≥ 90 ซม.ในผู้ชาย หรือ ≥ 80 ซม.ในผู้หญิง (WHO Expert Consultation, 2004) หรือ ค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ที่ ≥ 25 (Jaipakdee et at., 2013)

2) ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ≥ 150 มก./ดล.

3) ระดับ HDL cholesterol < 40 มก./ดล.ในผู้ชาย หรือ < 50 มก./ดล. ในผู้หญิงหรือกำลังรับประทานยาที่เพิ่ม HDL อยู่

4) ความดันโลหิต Systolic ≥ 130 และ/หรือ Diastolic ≥ 85 มม.ปรอท หรือกำลังรับประทานยาลดความดันโลหิตอยู่ (เกณฑ์การวินิจฉัยความดันโลหิตสูงตอนนี้) คือฺ BP ≥ 140 และ/หรือ ≥ 90 มม.ปรอท (JNC 8)

5) ระดับนำ้ตาลในเลือดขณะอดอาหาร ≥ 100 มก./ดล.หรือกำลังใช้ยารักษาเบาหวานอยู่

>> จะเห็นได้ว่า การที่เราจะรู้ว่าเราเป็นเมตาบอลิกซินโดรมหรือไม่นั้น จำเป็นที่จะต้องมาตรวจเลือดดูก่อนนะครับ เพื่อให้ทราบว่าเรามีความเสี่ยงต่าง ๆ ที่พูดมาหรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่มักไปด้วยกันก็คือ ถ้าเราอ้วน (โดยเฉพาะอ้วนลงพุง) ค่าเลือดอื่น ๆ มักจะผิดปกติไปด้วยและเป็นเมตาบอลิกซินโดรมในที่สุดครั






ที่มาจาก : หมอหล่อคอเล่า

เมตาบอลิกซินโดรมกว่าจะรู้ก็เป็นซ่ะแล้ว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์