จริงหรอ??? ดื่มกาแฟทุกวันอาจมีส่วนช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็งตับ!!

คนรักกาแฟได้มีเฮ เมื่อมีงานวิจัยได้ค้นพบว่ากาแฟสามารถช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็งตับได้ โดยในอดีตได้มีการวิจัยและค้นพบว่ากาแฟทำให้เกิดกรดไหลย้อนรุนแรงขึ้นและยังเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน แต่ในอีกด้านหนึ่งกาแฟก็ยังส่งผลที่ดีต่อตับ เนื่องจากสารในกลุ่มไดเทอร์ปีนที่ช่วยยับยั้งการเปลี่ยนสารจากภายนอกร่างกายให้อยู่ในรูปของสารพิษและ จะช่วยกระตุ้นกระบวนการขจัดสารพิษออกจากร่างกาย และกาแฟยังมีสารต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ นอกจากนี้การวิจัยยังพบว่าการดื่มกาแฟช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดไขมันพอกตับและมะเร็งตับ อย่างไรก็ตามกาแฟแก้วโปรดของแต่ละคนมักอุดมไปด้วยความหวานมันของน้ำตาลและครีม งานวิจัยนี้จึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะเป็นประโยชน์กับคนที่คิดจะดื่มกาแฟเพื่อสุขภาพ

มะเร็งตับเป็นภัยร้ายสุขภาพที่น่ากลัวชนิดหนึ่งที่ส่งผลเสียต่อร่างกายมนุษย์ ดังสถิติปรากฏว่า มะเร็งตับชนิด hepatocellular carcinoma (HCC) เป็นสาเหตุการตายอันดับต้นๆของมะเร็งทั้งหมด มะเร็งชนิดนี้พบบ่อยเป็นอันดับหนึ่งในชายไทย การป้องกันมะเร็งชนิดนี้ จึงมีความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตและการมีอายุยืน กาแฟในฐานะแหล่งรวมเคมีที่ดีต่อตับ ก็แสดงผลในการลดความเสี่ยงขอการเป็นมะเร็งตับ คณะนักวิจัยชาวจีนได้วิเคราะห์ข้อมูลจากงานวิจัยในมนุษย์ทั้งหมด 16 งาน แล้วพบว่า การดื่มกาแฟสามารถลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับได้ถึง 50%

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเซาแธมป์ตัน (Southampton universities) และมหาวิทยาลัยเอดินบะระ (Edinburgh universities) ได้ตรวจสอบข้อมูลจากการศึกษาวิจัยที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 2.25 ล้าน คน ผลปรากฏว่าเมื่อเทียบกับคนที่ดื่มกาแฟไม่ได้ ผู้ที่ดื่มหนึ่งแก้วมีร้อยละ 20 สามารถลดความเสี่ยงของการพัฒนาเซลล์มะเร็งในตับระยะแรก

ผลจากการตีพิมพ์ในวารสาร BMJ นักวิจัยค้นยังพบว่าคนที่ดื่มกาแฟ 1 แก้วต่อวัน ร้อยละ 20 มีโอกาสน้อยมากที่จะพัฒนาต่อไปเป็นโรคเกี่ยวกับตับ ส่วนการดื่มกาแฟวันละ 2 แก้ว ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้ 35% ในขณะที่ดื่ม 5 แก้ว จะช่วยลดโอกาสได้มากถึง 50%

ดร. Oliver Kennedy นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเซาแธมป์ตัน กล่าวว่า เป็นที่เชื่อกันอยู่แล้วว่า กาแฟจะส่งผลดีต่อสุขภาพ และการวิจัยค้นพบล่าสุดนี้ ชี้ให้เห็นถึงผลที่มีต่อความเสี่ยงมะเร็งตับ แต่ไม่ได้จะบอกว่า ทุกคนควรเริ่มต้นดื่มกาแฟ 5 แก้วต่อวัน เพราะจำเป็นต้องมีการวิจัยมากยิ่งขึ้นถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในการบริโภคคาเฟอีนสูงเกินไป และเพื่อตรวจสอบผลกระทบของสุขภาพ และควรหลีกเลี่ยงในบางกลุ่ม เช่น หญิงตั้งครรภ์ แต่ถ้าใครไม่ปลื้มในรสชาติของกาแฟก็มีตัวเลือกอื่นที่ไม่มีกาเฟอีนได้เช่นกัน เพียงแต่จะมีผลต่อการป้องกันในระดับน้อยกว่า

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่คนส่วนใหญ่กว่าจะสังเกตอาการของความผิดปกติที่ตับก็มักจะสายเกินไป วิธีการป้องกันไม่เพียงเริ่มจากการดื่มกาแฟ แต่การลดปริมาณของแอลกอฮอล์ของการดื่มเหล้า การดูแลน้ำหนักเพื่อสุขภาพ โดยการออกกำลังกายและการรับประทานอาหารที่ดีก็เป็นสิ่งสำคัญมากที่จะลดความเสี่ยงของการพัฒนาโรคมะเร็งตับและโรคตับเช่นกัน