
วิจัยใหม่ชี้ ต้นตอมะเร็ง ไม่ใช่ DNA แต่คือสิ่งนี้ในร่างกายคุณ
หน้าแรกTeeNee รวมเรื่องสุขภาพดีๆ มะเร็ง วิจัยใหม่ชี้ ต้นตอมะเร็ง ไม่ใช่ DNA แต่คือสิ่งนี้ในร่างกายคุณ

ในโลกที่โรคมะเร็งคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมากทุกวัน และงบวิจัยมหาศาลยังไม่อาจหยุดยั้งมันได้ งานวิจัยจาก ศาสตราจารย์โธมัส เซย์ฟรีด นักชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยบอสตัน สหรัฐอเมริกา ผู้ศึกษามะเร็งมากว่า 30 ปี อาจเปลี่ยนสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับโรคนี้ไปโดยสิ้นเชิง
มะเร็ง...ไม่ใช่เรื่องของพันธุกรรม?
ความเชื่อเดิมของวงการแพทย์ คือ "มะเร็งเกิดจากการกลายพันธุ์ของยีน" แต่ศ.เซย์ฟรีดกลับชี้ว่า การกลายพันธุ์เป็นเพียงผลที่ตามมา ไม่ใช่ต้นเหตุของมะเร็ง
ต้นตอที่แท้จริง เขาชี้ว่าอยู่ที่ "ไมโตคอนเดรีย" หรือแหล่งพลังงานของเซลล์ หากไมโตคอนเดรียถูกทำลายหรือทำงานผิดปกติ เซลล์จะไม่สามารถใช้พลังงานจากออกซิเจนได้ตามปกติ และจะหันไปใช้กลูโคสและกลูตามีนแทน ซึ่งเป็นกลไกที่เรียกว่า Warburg Effect - จุดเริ่มต้นของการเจริญเติบโตแบบไร้การควบคุมของเซลล์มะเร็ง
งานวิจัยยังชี้ว่า แม้ดีเอ็นเอจะเสียหาย แต่หากไมโตคอนเดรียยังทำงานดี เซลล์ก็ยังไม่กลายเป็นมะเร็ง แต่หากไมโตคอนเดรียพัง แม้ดีเอ็นเอยังสมบูรณ์ ก็อาจเกิดมะเร็งได้
ทำไมมะเร็งยังเพิ่มขึ้นไม่หยุด?
ทุกวันในสหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งเฉลี่ยถึง 1,676 ราย และที่น่าตกใจคือ วัยหนุ่มสาวที่สุขภาพดี ก็เริ่มเผชิญโรคนี้มากขึ้น - ปรากฏการณ์ที่ตั้งคำถามว่าเรากำลัง "เล็งเป้าผิด" มาตลอดหลายทศวรรษหรือไม่?
ดูแล "ไมโตคอนเดรีย" เพื่อลดความเสี่ยงมะเร็ง
หากแนวคิดของ ศ.เซย์ฟรีด เป็นจริง การดูแลไมโตคอนเดรียให้อยู่ในสภาพดีอาจเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันมะเร็งและโรคเรื้อรังอื่น ๆ ต่อไปนี้คือ **7 วิธีดูแลไมโตคอนเดรีย** ที่ทำได้จริง:
1. อดอาหารเป็นช่วง (Intermittent Fasting)
ช่วยกระตุ้น Autophagy หรือการรีไซเคิลเซลล์ที่เสื่อมสภาพ ทำให้ไมโตคอนเดรียที่เสียหายถูกกำจัด และเซลล์ใหม่ทำงานได้ดีขึ้น
2. ลดน้ำตาล โดยเฉพาะกลูโคสและกลูตามีน
เพราะเซลล์มะเร็งใช้สองสารนี้เป็นแหล่งพลังงานหลัก แนะนำการกินแบบคีโต หรือเลือกแป้งจากผักและธัญพืชไม่ขัดสี
3. กินอาหารที่ดีต่อไมโตคอนเดรีย
เช่น น้ำมันมะกอก, น้ำมันมะพร้าว, ปลาโอเมก้า-3, ผักใบเขียว, อะโวคาโด, ถั่ว, ขมิ้นชัน, เบอร์รี่ และชาเขียว
4. ออกกำลังกายอย่างพอดี
เน้นแบบ HIIT หรือเดินเร็ว ช่วยกระตุ้นการสร้างไมโตคอนเดรียใหม่ ทำให้เซลล์แข็งแรงขึ้น
5. นอนหลับลึกและเพียงพอ
อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน โดยเฉพาะช่วง deep sleep ที่ร่างกายจะซ่อมแซมไมโตคอนเดรียได้ดีที่สุด
6. ลดสารพิษและความเครียด
หลีกเลี่ยงควันบุหรี่, น้ำมันทอดซ้ำ, โลหะหนัก และลดความเครียดที่ทำให้เซลล์อ่อนแอได้ในระยะยาว
7. รับแสงธรรมชาติและอุณหภูมิที่กระตุ้นระบบร่างกาย
เช่น แสงแดดยามเช้าเพื่อปรับวงจรชีวภาพ และอาบน้ำเย็นสั้นๆ เพื่อกระตุ้นการทำงานของไมโตคอนเดรีย
สรุป: จุดเปลี่ยนสำคัญของแนวทางสุขภาพ
"หากไมโตคอนเดรียยังแข็งแรง... มะเร็งจะไม่สามารถเติบโตได้" - ข้อความนี้ของ ศ.โธมัส เซย์ฟรีด อาจฟังดูย้อนแย้งจากที่เราเคยเชื่อ แต่ก็เป็นประตูสู่แนวทางใหม่ในการดูแลสุขภาพระดับเซลล์ ที่เน้นการป้องกันมากกว่าการรักษาเมื่อสายเกินไป
แม้แนวคิดนี้ยังอยู่ในระยะที่ต้องการการวิจัยเพิ่มเติม แต่ก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่น่าติดตามอย่างยิ่งในยุคที่สุขภาพกลายเป็นเรื่องใหญ่ของชีวิตทุกคน.

Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว