การสวมใส่ยกทรงนอนส่งผลเสียต่อสุขภาพ

จุดประสงค์ของการสวมใส่ยกทรงคือ..เพื่อประคับประคองหน้าอก ให้ความรู้สึกพอดีและปลอดภัยสำหรับผู้หญิง ยกทรงสามารถส่งผลต่อรูปทรงของหน้าอกได้ชั่วคราว เช่น การยกกระชับเพื่อสร้างร่องอก ในช่วงปี 1930 ลุคทอมบอยกำลังมาแรงดังนั้นยกทรงจึงถูกสวมใส่เพื่อรัดหน้าอกให้แบนราบ ส่วนผู้หญิงที่มีหน้าอกใหญ่ยกทรงจะมีส่วนช่วยในการควบคุม อย่างไรก็ตามมีการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบอันตรายซึ่งเกิดจากการสวมใส่ยกทรงโดยเฉพาะตอนที่นอนหลับ

การสวมใส่ยกทรงนอนส่งผลเสียต่อสุขภาพ

ทำให้รู้สึกกระสับกระส่าย
การสวมใส่ยกทรงอาจทำให้ผู้หญิงบางคนรู้สึกอึดอัดในช่วงเวลาที่ดีที่สุด ผู้หญิงที่นอนหงายอาจรู้สึกว่าตะขอชุดชั้นในกดเข้าไปในผิวหนังและทำให้รู้สึกไม่สบายตัว ขณะที่ยกทรงแบบมีโครงอาจทิ่มเข้าไปบริเวณใต้เนื้อเยื่อเต้านมและทำให้เกิดรอยขีดข่วนหรือรอยแดง ผลกระทบที่ตามมาคือคุณจะนอนหลับๆตื่นๆตลอดทั้งคืนและไม่สบายตัวอย่างต่อเนื่อง
เอ็นยึดอ่อนแอ
แม้ผู้หญิงเราจะสวมใส่ยกทรงเพื่อรองรับกระชับหน้าอกเป็นเหตุผลหลัก แต่นั่นก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้หญิงได้เช่นกัน หน้าอกไม่มีเอ็นยึดที่แข็งแรงเนื่องจากไม่ต้องรองรับน้ำหนักของตัวเอง ดังนั้นหน้าอกจะหย่อนคล้อยหากสวมใส่ยกทรงติดต่อกันทั้งวันทั้งคืน เต้านมจะไม่มีโอกาสใช้เอ็นยึดเหล่านั้นและยิ่งทำให้ปัญหาแย่ลง

โรคมะเร็ง
หนังสือ "Dressed to Kill" ซึ่งถูกตีพิมพ์ในปี 1995 ชี้ว่ายกทรงจะยับยั้งการระบายน้ำเหลือง รวมถึงเพิ่มอุณหภูมิของเต้านมและระดับโปรแลคติน ดังนั้นผู้หญิงจึงเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งมากขึ้น แม้จะมีข้อโต้แย้งว่าไม่เกี่ยวกับระดับฮอร์โมนภายในที่เกี่ยวข้องกับโรคมะเร็ง แต่บางคนก็เชื่อว่าการสวมใส่ยกทรงจะทำให้เป็นมะเร็งและการสวมใส่ตลอดเวลาก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงนี้

เหงื่อออกมากเกินไป
เหงื่อออกคือผลข้างเคียงจากการสวมใส่ยกทรงนอน วัสดุพิเศษและแผ่นรองเสริมจะระงับการไหลเวียนของอากาศที่อยู่รอบๆผิว ดังนั้นผู้หญิงจึงรู้สึกร้อนและมีเหงื่อออกมากผิดปกติซึ่งทำให้เกิดอาการคันและไม่สบายตัว ทางที่ดีควรสวมใส่ยกทรงที่มีเนื้อผ้าระบายอากาศได้ดีอย่างผ้าฝ้าย เป็นต้น

ซีสต์และเนื้องอก (ไม่อันตราย)
ซีสต์และเนื้องอก (ไม่อันตราย) มักเป็นก้อนเนื้อเยื่อที่ไม่สามารถพัฒนากลายเป็นมะเร็งได้ แต่การสวมใส่ยกทรงที่รัดเกินไปอาจทำให้เกิดการอักเสบและการระบายที่ไม่เหมาะสม และที่สำคัญเนื้องอก (ไม่อันตราย) ดังกล่าวก็อาจพัฒนาต่อไปได้



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์