ห่างไกลจากอาการ ออฟฟิศซินโดรม ได้ไม่ยาก


ห่างไกลจากอาการ ออฟฟิศซินโดรม ได้ไม่ยาก


กลุ่มอาการเจ็บปวดจากโรคออฟฟิศซินโดรมนั้น เป็นปัญหาที่สร้างความรำคาญ และปัญหาในการทำงานของคนสมัยนี้ไม่ใช่น้อย คนที่ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ นั่งก้มๆเงยๆติดต่อกันวันละหลายๆชั่วโมงโดยไม่รู้ตัว



ห่างไกลจากอาการ ออฟฟิศซินโดรม ได้ไม่ยาก


หลายๆนคนส่วนใหญ่ไม่รู้จักวิธีการดูแลตนเอง หรือไม่รู้จักสาเหตุของโรคที่แท้จริง คนไข้ที่มาหาหมอส่วนใหญ่ก็มาด้วยอาการสะสมจากการทำพฤติกรรมซ้ำๆ ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยเรื้อรังแบบ "ออฟฟิศซินโดรม" หรือ "ภาวะหลังค่อม" ซึ่งเมื่อปล่อยเอาไว้นานๆไม่รักษาและไม่ปรับพฤติกรรมก็อาจจะเป็นผลเสียต่อสุขภาพ




"ภาวะหลังค่อม" ในคนทำงานออฟฟิศส่วนใหญ่อาจเกิดจากการเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อจากการทำงาน อีกส่วนก็มาจากพฤติกรรมส่วนตัวที่ทำจนเป็นนิสัยเคยชิน รวมไปถึงการวางตำแหน่งของหน้าจอที่ต่ำจนเกินไป หรือต้องใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คในการทำงาน ซึ่งมีหน้าจอที่ต่ำกว่าระดับสายตา ทำให้ต้องยื่นหน้าเข้าไปจ้องหน้าจอ

ห่างไกลจากอาการ ออฟฟิศซินโดรม ได้ไม่ยาก


เมื่อเราอยู่ในท่าทางหลังค่อมนี้เป็นเวลานาน ก็จะทำให้กล้ามเนื้อคอต้องทำงานมากขึ้นเพื่อดึงคอให้ตั้งตรง อีกทั้งยังต้องอยู่ในท่าทางแบบนี้เป็นเวลานาน ก็ไม่แปลกที่เลยที่จะมีอาการปวดเมื่อยคอบ่าไหล่ อีกสาเหตุหนึ่งก็มาจากผู้ที่ชอบนอนหมอนสูงดูทีวี หรือนอนเล่นโทรศัพท์เป็นประจำ จะทำให้ข้อต่อ เอ็นและกล้ามเนื้อเกิดการผิดรูป กล้ามเนื้อหดเกร็งตัวได้ง่าย



ห่างไกลจากอาการ ออฟฟิศซินโดรม ได้ไม่ยาก

ภาวะหลังค่อมแก้ไขได้ด้วยตนเอง  เพียงเริ่มฝึกกายบริหารดังต่อไปนี้  


1.ท่าเก็บคาง 
ให้ดึงคางเข้ามาให้ได้มากที่สุด โดยที่ศีรษะต้องตั้งฉากกับพื้น ถ้ายังทำไม่ได้ ให้ลองก้มหน้ากดคางติดคอ แล้วพยายามเงยหน้าไปให้ได้มากที่สุดโดยคางยังกดเข้าหาคออยู่ ถ้าทำได้ถูกต้องจะรู้สึกยืดบริเวณกล้ามเนื้อคอด้านหลัง และรู้สึกเกร็งบริเวณหลังส่วนบน โดยท่านี้จะทำให้ศีรษะกลับไปอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง กระดูกคอและกระดูกสันหลังช่วงบนเรียงเป็นแนวเดียวกันท่านี้ควรทำเป็นประจำในชีวิตประจำวัน


2.ท่าวางแขนแอ่นอก
วางแขนและข้อศอกให้อยู่แนบลำตัว แอ่นอกเล็กน้อย เวลานั่งก็ต้องให้หลังตรงพิงพนักเก้าอี้ ควรฝึกท่านี้จนเกิดความเคยชิน เมื่อทำจนเป็นนิสัยแล้ว ก็จะห่างไกลจากภาวะออฟฟิศซินโดรมได้แล้วค่ะ


เครดิตแหล่งข้อมูล : huachiewtcm.com

เรียบเรียง : ทีมงาน Teenee.com


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์