โรคเมื่อยตา สัญญาณเตือนหน้าต่างของชีวิตกำลังแย่

ปัญหา “ตา” ที่น่ารู้ เรามักได้ยินคนพูดว่า “ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ” แต่ในความเป็นจริงนั้น ดวงตาเป็นมากกว่าหน้าต่างของหัวใจ แต่เป็นหน้าต่างของชีวิต

เพราะท่านทราบหรือไม่ว่า เราสามารถตรวจพบความผิดปกติของร่างกายหลายๆ อย่าง จากการตรวจตา เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวานจอประสาทตา โรคหัวใจบางชนิด หรือแม้กระทั่งโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง นอกจากนี้ ดวงตายังเป็นอวัยวะที่สำคัญที่ทำให้เราเห็ฯโลกได้อย่างชัดเจน และสวยงาม ดังนั้นเราทุกคน ควรดูแลดวงตาของเราเป็นอย่างดี เพื่อให้ดวงตาของเราทำหน้าที่เป็นหน้าต่างของหัวใจต่อไป

โรคตาแห้ง
คือ ภาวะที่น้ำหล่อเลี้ยงลูกตาน้อยลงกว่าปกติ อาจพบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ อาจเกิดจากการขาดวิตามินเอ หรือเกิดจากความผิดปกติของตาในการสร้างน้ำหล่อเลี้ยงตาลดลง หรืออาจเกิดจากการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาหยอดแก้เคืองตาหรือยากินแก้แพ้เป็นระยะเวลา นอกจากนั้นอาจพบในผู้ที่เพ่งใช้สายตาเป็นเวลานาน เช่น การเพ่งโทรทัศน์หรือคอมพิวเตอร์

โรคตาแห้ง พบได้บ่อยขึ้นในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน อาการของโรคจะรู้สึกเคืองตา ฝืดตา เหมือนมีทรายอยู่ในตา การรักษา หากอาการเป็ฯไม่มากแนะนำให้หลับตาพักชั่วครู่ เพื่อให้น้ำหล่อเลี้ยงตาจากเปลือกตากลับมาเคลือบตา หรือปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาใช้น้ำตาเทียมตามความเหมาะสม

โรคเมื่อยตา
 เกิดจากการเพ่งใช้สายตามากเกินควร โดยการใช้สายตาต่อเนื่องยาวนาน หรือการใช้สายตาในที่มีแสงสว่างไม่พอ ดังนั้นในผู้ที่จำเป็นต้องใช้สายตามากเป็นประจำ เช่น นักคอมพิวเตอร์ พนักงานพิมพ์ดีด ควรจัดให้มีแสงสว่างอย่างเพียงพอ และเมื่อใช้สายตาต่อเนื่องประมาณ 15-20 นาที ควรมีการพักสายจตา โดยการมองออกไปที่ไกลๆ เช่น นอกหน้าต่างประมาณ ½-1 นาที เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อตา จะช่วยลดอาการตาลงได้มาก
อาหารกับดวงตา

หลายท่านคงเคยได้ยินเรื่องการกินผักบุ้งทำให้สายตาดี ซึ่งก็มีส่วนจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง โดยผักหลายชนิดเป็นแหล่งชองวิตามินต่างๆ ที่สำคัญกับดวงตา เช่น วิตามินเอ ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของสารในจอประสาทตา (หรือเรตินา) ช่วยให้จอประสาทตาทำหน้าที่ในการมองเห็นได้เป็นปกติ นอกจากนั้นในเด็กหรือผู้ใหญ่ที่ขาดวิตามินเอ อาจทำให้เกิดอาการตาแห้งอย่างรุนแรง เรียกว่าโรคเกล็ดกระดี่ ที่บริเวณเยื่อบุตาขาว ทำให้มีอาการเคืองตาได้ ดังนั้น การรับประทานผักเพื่อให้ได้รับวิตามินเพียงพอ ก็เป็นวิธีหนึ่งในการช่วยรักษา สุขภาพตาของเรา ให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ดูทีวีห่างแค่ไหนดี
คำตอบที่ถูกต้องคงต้องขึ้นกับขนาดของห้องและจอโทรทัศน์ที่สัมพันธ์เหมาะสมกัน คือถ้าจอโทรทัศน์มีขนาดใหญ่และห้องมีพื้นที่กว้าง ควรพยายามให้ลูกนั่งห่างๆ จอโทรทัศน์ เพื่อลดการใช้สายตาเพ่งดูโดยไม่จำเป็น แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ควรให้ลูกนั่งดูจอโทรทัศน์ใกล้กว่าระยะ 6 ฟุต เพราะการเพ่งดูจอโทรทัศน์ในระยะใกล้ จะทำให้เด็กปวกตาและปวดหัวได้ นอกจากนั้น คุณพ่อคุณแม่ ควรเลือกสรรรายการที่เป็นประน์แก่เด็กและหาเวลานั่งดูโทรทัศน์ร่วมกันและอธิบายสิ่งต่างๆ ให้เด็กฟัง จะทำให้การดูโทรทัศน์ในครอบครัวได้รับความสนุก อบอุ่นและมีประโยชน์ต่อเด็กๆ ยิ่งขึ้น



ที่มา : Postjung.com

โรคเมื่อยตา สัญญาณเตือนหน้าต่างของชีวิตกำลังแย่

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์