เตือนสูงวัย ลดอาหารปิ้งย่าง ปัจจัยเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่

หน้าแรกTeeNee รวมเรื่องสุขภาพดีๆ ข่าวสุขภาพและสุขภาพทั่วไป เตือนสูงวัย ลดอาหารปิ้งย่าง ปัจจัยเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่

วันนี้เรามีข้อมูลดี ๆ มาฝากสูงวัยท่าน ๆ ทั้งหลาย เพื่อให้ตื่นตัวต่อโรคภัยต่าง ๆ ที่มาจากพฤติกรรมที่หลายคนไม่รู้ว่าสุ่มเสี่ยงและเคยชินทำกันมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ลากยาวถึงวัยผู้ใหญ่จนก่อเป็นโรคภัยในผู้สูงอายุ แต่ถ้าวันนี้เรารู้จักสัญญาณอันตรายก่อโรค และสามารถลดปัจจัยเสี่ยงได้ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับการป้องกัน

หลายท่านอาจจะไม่ทราบว่า หนึ่งโรคที่อุบัติการณ์กำลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือ มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง ฉะนั้นในวันนี้คุณยายก็จะพาไปดูว่าสถานการณ์ขณะนี้เป็นอย่างไร รุนแรงแค่ไหน ทำไมถึงจะต้องหยิบมาเขียนและเตือนกันโดยเฉพาะผู้สูงอายุ

เราไปฟังจาก นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ บอกว่า ปกติมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับต้น ๆ ของหลายประเทศทั่วโลก เพราะด้วยวิถีการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้คน ส่งผลให้แนวโน้มอุบัติการณ์ของโรคนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นำมาสู่สาเหตุการตายและปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ ซึ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกปี สำหรับประเทศไทยมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงเป็น 1 ใน 5 ของมะเร็งที่พบมากในคนไทย มีอัตราการเกิดโรคสูงขึ้นทุกปี

จากข้อมูลสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข ระหว่างปี 57-59 พบมากเป็นอันดับ 3 ในเพศชาย และอันดับ 4 ในเพศหญิง แต่ละปีจะมีผู้ป่วยรายใหม่ 12,467 คน หรือวันละ 34 คน เป็นเพศชาย 6,874 และเพศหญิง 5,593 คน และจากสถิติในปี 60 ของกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พบผู้เสียชีวิตวันละ 13 คน หรือกว่า 4,700 คนต่อปี

แน้วโน้มของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงที่เพิ่มสูงขึ้นนี้ หากลองมองย้อนกลับมาดูที่วิถีชีวิตของคนไทยในปัจจุบัน ก็จะพบว่า...มีการเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตมาก โดยเฉพาะพฤติกรรมที่ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการเกิดโรคมีดังต่อไปนี้

1.การทานอาหาร ทั้งไขมันสูง ฟาสต์ฟู้ดต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น

2.อาหารปิ้งย่างไหม้เกรียม อาหารจากน้ำมันทอดซ้ำ และอาหารประเภทเนื้อสัตว์แปรรูปและเนื้อแดง

3.สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

4.ขาดการออกกำลังกาย

5.การมีภาวะอ้วน น้ำหนักเกิน

6.มีประวัติครอบครัวหรือตนเองเป็นติ่งเนื้อในลำไส้

ดังนั้นทุก ๆ ปีในช่วงเดือนมีนาคม หลายท่านอาจจะเห็นว่า บ่อยครั้งหน่วยงานต่าง ๆ พยายามออกมารณรงค์ เนื่องในเดือนมีนาคมเป็นเดือนที่องค์กรด้านสุขภาพทั่วโลก ร่วมใจต้านภัยมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง...

ส่วนสาเหตุที่มักจะพบว่าโรคนี้มีความรุนแรงมาก นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เริ่มจากการเกิดติ่งเนื้อในลำไส้ และพัฒนาจนเป็นมะเร็ง โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 10-15 ปี และมักจะไม่มีอาการใด ๆ ให้เห็นในระยะเริ่มแรกของโรค จะมีอาการเมื่อโรคลุกลามมากขึ้นจนถึงระยะสุดท้าย ทำให้การรักษาไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร

เราไปดูอาการที่เป็นสัญญาณอันตรายของโรคที่พบได้บ่อยจะมีอะไรบ้าง ???

1.การถ่ายอุจจาระผิดปกติ มีอาการท้องผูกสลับท้องเสีย

2.ถ่ายอุจจาระบ่อยครั้ง ถ่ายไม่สุด

3.ถ่ายเป็นมูกหรือมูกปนเลือด หรืออาจถ่ายเป็นเลือดสด

4.ขนาดลำอุจจาระเล็กลง

5.มีอาการปวดท้อง แน่นท้อง ท้องอืด จุกเสียด

อย่างไรก็ตาม มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงเป็นมะเร็งที่สามารถตรวจคัดกรองเพื่อค้นหามะเร็งในระยะเริ่มแรกได้ ทำให้ผลการรักษาได้ผลดีและมีโอกาสหายจากโรคสูง และที่สำคัญผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปควรตรวจคัดกรองโรคโดยการตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระปีละครั้ง ถ้าผิดปกติควรได้รับการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ กรณีพบติ่งเนื้อหรือความผิดปกติในลำไส้ใหญ่ คุณหมอจะตัดชิ้นเนื้อบริเวณดังกล่าวเพื่อวินิจฉัยต่อไป