มาดื่มน้ำ-ปัสสาวะอย่างคนมีความรู้กัน By นพ.อิทธิฤทธิ์


มาดื่มน้ำ-ปัสสาวะอย่างคนมีความรู้กัน By นพ.อิทธิฤทธิ์

ปัญหาคนยุคนี้ คือ ดื่มน้ำมากเกินไป เป็นเพราะการรณรงค์เรื่อง ดื่มน้ำมากๆ และการขาดความรู้ ทำให้เกิดปัญหามากมายตามมา

วันนี้ขอให้ความรู้กัน จะได้ดื่มน้ำ-ปัสสาวะอย่างผู้มีความรู้

อ่านแยกกันนะครับ ไม่ได้อ่านติดกัน

1. ปัสสาวะเป็นผลจากการกรองเลือดของไต เพื่อนำเอาของเสียหลักคือ ยูเรีย ออกจากเลือด รวมถึงปริมาณน้ำส่วนเกิน

2. ปกติการดื่มน้ำเข้าไป ร่างกายจะกำจัดทิ้งได้หมดประมาณ 4 ชม.

3. การดื่มน้ำที่เหมาะสม คือ ให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างเหมาะสม ถ้าได้น้อยไปจะเรียก dehydration

4. วิธีดูว่าร่างกายขาดน้ำหรือไม่ ต้องเอาปัสสาวะมาวัดความถ่วงจำเพาะ หรือ specific gravity ซึ่งในชีวิตประจำวันคงไม่สามารถทำได้

5. ดังนั้นการดูแบบอ้อมๆ ( Indirect ) คือ การดูสีปัสสาวะ ต้องไม่ใส(น้ำเยอะไป) หรือเหลืองเข้ม (ขาดน้ำ)

6. ปริมาณน้ำที่เหมาะสมต่อวันแบบคร่าวๆ คือ น้ำหนักตัว คูณ 30 เช่น ถ้าหนัก 60 กก. น้ำควรได้ประมาณ 1,800 cc / วัน แปลว่า ถ้าคนน้ำหนักตัวเท่านี้ ดื่มน้ำเกินนี้ แปลว่าดื่มน้ำมากเกินไป

7. ถ้าออกกำลังกาย ต้องดื่มน้ำมากกว่านี้ ปริมาณเท่าไหร่? ให้ดูสีปัสสาวะเป็นหลัก

8. กลางคืน “ต้อง” ให้ไตได้พัก ไม่ใช่ดื่มน้ำมากๆก่อนนอน ไตเป็นเหมือนเครื่องกรองน้ำ ถ้าเครื่องกรองน้ำทำงานหนัก ต้องเปลี่ยนไส้กรอง แต่น่าเสียดายที่มนุษย์ไม่มีไส้กรองให้เปลี่ยน แปลว่าไตจะแย่ลง

9. สีปัสสาวะตอนนี้ มันเป็นผลเมื่อ 3-4 ชม.ก่อน เช่น กลับบ้านเข้าห้องน้ำ เห็นปัสสาวะเข้มมาก แปลว่าเมื่อ 3-4 ชม.ก่อนดื่มน้ำน้อยไป

10. อย่าดื่มน้ำเกินครั้งละ 500 cc ต้องระวังปัญหาเกลือแร่โซเดียมในเลือดเสียสมดุล ซึ่งทำให้สมองบวม เกิดความมึนงง และถ้ามากเกินไปอาจตายได้ 

11. ถ้ารู้สึกว่าปัสสาวะเข้มแบบขาดน้ำ ใจเย็นๆ แก้ร่างกายขาดน้ำด้วยการ ให้ทยอยๆดื่มน้ำในช่วง 30 นาที อย่าอัดน้ำมากๆครั้งเดียว

12. ปริมาณน้ำขั้นต่ำที่ร่างกายต้องการ คือ ประมาณ 60 cc / ชม.

13. แปลว่าตอนเช้า ควรต้องดื่มน้ำ 60 cc x 8 ชม. = 480 cc (หมายถึง ช่วงกลางคืนทั้งคืนที่ไม่ได้ดื่มน้ำ) 

14. แต่..... ตื่นเช้าแล้วอย่าดื่มรวดเดียว ให้ทยอยดื่มในเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง ไม่ต้องรีบร้อน

15. ถ้าคิดจะไปไหน แล้วไม่อยากปวดปัสสาวะระหว่างเดินทาง คำนวณเวลาดื่มน้ำให้ดี

16. ก่อนนอน 3 - 3.5 ชม. ต้องแทบไม่ดื่มน้ำ เพื่อว่าให้ร่างกายได้เคลียร์น้ำรอบสุดท้ายก่อนนอนให้หมด กลางคืนจะได้หลับรวดทั้งคืน

17. ตย. ถ้าต้องการนอน 5 ทุ่ม ประมาณ 2 ทุ่มสามารถดื่มน้ำเยอะหน่อยได้เป็นครั้งสุดท้าย 

18. ระหว่าง 3 – 3.5 ชม.ก่อนนอนนั้น ให้ดื่มน้ำไม่เกิน 100 cc

19. คนทั่วไปดื่มน้ำเยอะ หรือดื่มนมก่อนนอน ทำให้ต้องตื่นมาตอนตี 2 ตี 3 และกลับไปนอนต่ออีกครั้งยาก ตาโพลง

20. กระเพาะปัสสาวะเมื่อมีความจุประมาณ 100 cc ก็จะเริ่มปวดปัสสาวะแล้ว เลยเป็นเหตุผลว่า ในช่วง 3 ชม.ก่อนนอน ดื่มน้ำได้นิดหน่อยเท่านั้น เพื่อจะได้หลับยาวทั้งคืน

21. ในผู้หญิง ท่อปัสสาวะมีความยาว 4 ซม. ซึ่งเชื้อแบคทีเรียตามปกติสามารถเดินทางเข้าไปได้ง่าย

22. แปลว่า ทุก 3-4 ชม. ปวดปัสสาวะหรือไม่ ก็ต้องเข้าห้องน้ำเพื่อเคลียร์ปัสสาวะทิ้ง ก่อนที่เชื้อโรคจะเติบโตมากเกินไป แล้วจะกลายเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

23. วิธีดูง่ายๆว่า ดื่มน้ำพอไหม คือ ประมาณ 3-4 ชม.จะต้องปวดปัสสาวะ

24. ถ้าปัสสาวะเร็วกว่า 3 ชม. อาจดื่มน้ำมากไป หากเกิน 4 ชม.แล้วยังไม่ปวดปัสสาวะ น่าจะดื่มน้ำน้อยไป 

25. ปริมาณน้ำที่ดื่มต้องลดลง ถ้ากินอาหารที่มีน้ำๆ หรือผักผลไม้ฉ่ำน้ำ มิฉะนั้นจะได้รับน้ำมากเกินไป

ขอบคุณข้อมูลจาก มาดื่มน้ำ-ปัสสาวะอย่างคนมีความรู้กัน By นพ.อิทธิฤทธิ์
เพจ Dad Mom and Kids เพื่อครอบครัวที่มีความสุขกว่าเดิม และเว็บสั่งซื้อหนังสือของเพจ dadmomandkids.lnwshop.com



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์