“ยาฝัง” คุมกำเนิดได้อย่างไร


“ยาฝัง” คุมกำเนิดได้อย่างไร

ยาฝังคุมกำเนิด ลักษณะเป็นแท่งเล็ก ๆ คล้าย ก้านไม้ขีด ภายในประกอบด้วยฮอร์โมนเช่นเดียวกับยาเม็ดคุมกำเนิด แต่มีฮอร์โมนโปรเจสติน (Progestin) เพียงชนิดเดียว ยาที่ฝังไว้ใต้ท้องแขนจะปล่อยฮอร์โมนสู่กระแสเลือดอย่างช้า ๆ ทำให้ฟองไข้ยุติการพัฒนา และไม่เกิดการตกไข่ จึงไม่มีการปฏิสนธิกับเชื้ออสุจิ การตั้งครรภ์จึงไม่เกิดขึ้น

ข้อดี

1. ประสิทธิภาพสูง มั่นใจได้

2. ใช้ได้นาน 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของยา

3. ไม่ต้องกลัวลืมกินยา

4. ใช้ในระยะให้นมบุตรได้ ไม่มีผลรบกวน

5. มีบุตรได้ทันที หลังหยุดใช้ยา

ข้อจำกัด

1. ไม่ป้องกันโรคติต่อทางเพศสัมพันธ์

2. ต้องรับบริการจากแพทย์หรือบุคลากรสาธารณสุขที่เชี่ยวชาญเท่านั้น

3. อาจทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติ

ผู้หญิงที่ไม่ควรใช้ยาฝังคุมกำเนิด ได้แก่ คนที่เป็นโรคตับ อาจทำให้ตับอักเสบเพิ่มขึ้น คนที่เคยมีประวัติเป็นมะเร็งเต้านม รวมทั้งคนที่มีภาวะเลือดออกง่ายหยุดยาก เนื่องจากยาฝังคุมกำเนิดอาจไปรบกวนการทำงานของเกล็ดเลือดได้

ค่าใช้จ่ายของการฝังยาคุม ราคาในโรงพยาบาลรัฐอยู่ที่ 2,500-3,000 บาท ดูเหมือนจะราคาสูง แต่จ่ายครั้งเดียวใช้ได้นาน 3-5 ปี ก็ถือว่าคุ้ม

ข่าวดีสำหรับวัยรุ่นก็คือ ปัจจุบันรัฐได้จัดสวัสดิการเพื่อให้คนที่มีอายุ 10-20 ปี สามารถเข้าถึงการคุมกำเนิดอย่างมีคุณภาพ โดยกำหนดให้โรงพยาบาล หรือสถานบริการต้องช่วยเหลือให้คำปรึกษาปัญหาการตั้งครรภ์ ทั้งการคุมกำเนิด และการวางแผนครอบครัว

วัยรุ่นสามารถขอรับบริการยาฝังคุมกำเนิดได้ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่สถานบริการสุขภาพหรือ โรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศ โดยใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (30 บาทรักษาทุกโรค) สิทธิประกันสังคม หรือสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ

เครดิตแหล่งข้อมูล :thaihealth.or.th


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์